Review Literature
การเติบโตแบบก้าวกระโดดของ Andhra Pradesh โดย Nara Chandrababu Naidu
กรณีศึกษาของ Andhra Pradesh, India
การพัฒนาเศรษฐกิจและการต่อต้านคอร์รัปชันในกรณีศึกษาของ Andhra Pradesh, India ภายใต้การบริหารของ Nara Chandrababu Naidu มุขมนตรีจากพรรค Telugu Desam Party (TDP) ที่บริหารประเทศ 3 สมัย (ไม่ต่อเนื่องกัน) คือ สมัยแรก ปี 1995-2004 สมัยที่สอง 2014-2019 และสมัยที่สาม 2019 -ปัจจุบัน Naidu เริ่มบริหารจัดการประเทศและพัฒนาเศรษฐกิจของ Andhra Pradesh มลรัฐที่มีประชากรมากกว่า 75 ล้านคน (ต่อมาในปี 2014 มีการแยกตัวออกไปตั้งมลรัฐใหม่ของ Telangana ทำให้ประชากรของ Andhra Pradesh ลดลงเป็น 54 ล้านคน) ประชาชน 48% ไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ 70% มีอาชีพเกี่ยวกับเกษตรกรรม 50% ไม่มีไฟฟ้าใช้ และ 69% ไม่มีน้ำประปาใช้ ประชาชนต้องพึ่งพาการบริการของรัฐ และใบอนุญาตตั้งแต่การแจ้งเกิด ตาย การจ่ายค่าน้ำ/ไฟ ภาษี ใบอนุญาตขับขี่ และการจดทะเบียนทรัพย์สิน ซึ่งล้วนแต่เป็นช่องทางที่นำไปสู่โอกาสของการคอร์รัปชันของข้าราชการ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 13-14% ของประชากร ข้อมูลสถิติรายได้ประชากรต่อหัวของ Andhra Pradesh อยู่ในอัตรา <600 US$ (Prahalad, 2005)
แม้ Andhra Pradesh จะเป็นรัฐยากจน แต่ Naidu และรัฐบาลของเขาก็ได้ริเริ่มการบริการอันเป็นพื้นฐานของการบริการของรัฐที่ลดวงจรและโอกาสของการคอร์รัปชัน พร้อมกับสร้างบรรยากาศของการเปิดกว้าง โปร่งใส และมีส่วนร่วมระหว่างภาคส่วนของสังคม รายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นจากประมาณ 600 US$ ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 เป็นราว 3,525 US$ ในปัจจุบัน (2025) หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 5.9 เท่าตัว (คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ย 9.4% ต่อปีในระยะ 20 ปี)
นโยบายเพื่อการต่าง ๆ ของ Naidu ประกอบไปด้วย
1. การปฏิรูปเศรษฐกิจและดิจิทัล (Economic & E-Governance Reform)
การปฏิรูประบบการบริการของภาครัฐตามโครงการ e-Seva / MeeSeva Centers เป็นตัวอย่างที่เริ่มขึ้นในปี 2001 เพื่อให้บริการภาครัฐแบบดิจิทัล “one-stop service” สำหรับการจ่ายบิล, ขอเอกสารราชการ, ลงทะเบียนเกษตรกร โดย e-Seva เป็นบริการออนไลน์ และ Kiosk ที่ให้บริการเต็มรูปแบบ แต่ MeeSeva เป็นส่วนหนึ่งของ e-Seva ที่บริการเป็นเพียงบางส่วน เฉพาะในพื้นที่ของ Telangana (ที่ยังไม่แยกตัวออกไปในขณะนั้น) ผลลัพธ์ของการดำเนินงานตามโครงการนี้ ได้ทำให้ประชาชนกว่า 30 ล้านคนได้รับบริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล ลดเวลาทำธุรกรรมราชการจากหลายวันเหลือไม่กี่นาที โมเดลนี้ถูกขยายไปหลายรัฐในอินเดีย (Prahalad, 2005)
2. การดึงดูดนักลงทุนตามยุทธศาสตร์การลงทุนและการเติบโตตาม Vision 2020
Vision 2020: A Knowledge-Based Society” เป็นวิสัยทัศน์ที่มีเป้าหมายเปลี่ยน Andhra Pradesh จากรัฐเกษตรกรรมไปสู่รัฐเทคโนโลยีและบริการ การดำเนินงานตามยุทธศาสตร์นี้ ได้จัดตั้งHyderabad HITEC City (Information Technology and Engineering Consultancy City) เป็นศูนย์กลาง IT ระดับโลก ที่สามารถดึงดูดบริษัทระดับโลกอย่าง Microsoft, Google, IBM เข้ามาร่วมลงทุนและใช้บริการของเมือง โครงการนี้ได้รับฉายาว่า “Cyber Naidu” จากสื่ออินเดียและต่างประเทศ ผลต่อเศรษฐกิจจากโครงการนี้ ได้ทำให้ GDP ของรัฐ Andhra Pradesh เติบโตเฉลี่ยกว่า 8% ต่อปี (ช่วงปี 1998–2004) และเป็นต้นแบบของ “Digital Economy” ของอินเดีย (India Today, 2003; Kennedy, 2007))
3. การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากแบบมีส่วนร่วม (Bottom-of-the-Pyramid Development)
เป็นการการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนฐานรากอย่างเฉพาะเจาะจงต่อการพัฒนาที่มีเป้าหมายที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพื้นที่ให้เกิดขึ้นเป็นจริง โดยนำเอาทุนทางสังคมของชาวอินเดียที่ว่าด้วยการรวมกลุ่มเพื่อจัดการตนเอง (Self-Help Groups) มาพัฒนาสำหรับการรวมกลุ่มผู้หญิงในภาคชนบท ให้เข้าสู่โครงการพัฒนาความรู้ ทักษะ สร้างอาชีพ และสร้างรายได้จากการประกอบการ โดยภาครัฐมีโครงการสนับสนุนด้วยการส่งเสริมสินเชื่อขนาดเล็ก การออมกลุ่ม และการรวมกลุ่มผลิต โดยมีโครงการ Velugu Project / Indira Kranthi Patham (IKP) ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งแก้ปัญหาความยากจนในระดับตำบล/เขต ที่ปรับเปลี่ยนพันธกิจงานสนับสนุนชุมชนในระดับล่างจาก “ภาระ” ให้เป็น “พลัง” ด้วยการพัฒนาให้เป็นผู้ประกอบการรายใหม่ในระบบตลาด เป็นโครงการที่รัฐสนับสนุนให้มีความร่วมมือกับเอกชน เช่น Bill & Melinda Gate Foundation (BMGF) International Center for Research on Women (ICRW) และ Tata Institute of Social Science Hyderabad ผลของการดำเนินงานตามโครงการนี้ ทำให้มีผู้หญิงกว่า 10 ล้านคนเข้าร่วมกลุ่ม SHG ทำให้มีรายได้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น และสามารถการเข้าถึงสินเชื่อได้มากกว่า 60% ของสมาชิก และเป็นกรณีศึกษาที่ธนาคารโลก (World Bank) ได้เข้ามาร่วมสนับสนุนในโครงการที่เรียกว่า Andhra Pradesh Rural Poverty Reduction Project (APRPRP) (World Bank, 2005)
4. การต่อต้านคอร์รัปชันและการบริหารแบบโปร่งใส (Anti-Corruption & Governance)
แนวทางการดำเนินงานโดยสนับสนุนให้ใช้เทคโนโลยีแทนระบบการดุลยพินิจที่นำไปสู่การพึ่งพาระบบอุปถัมภ์ เช่น การเปิดเผยข้อมูลงบประมาณ การจัดซื้อ บริการสาธารณะออนไลน์ การติดตามผลการดำเนินงานแบบ real-time dashboard มีการตั้งหน่วยงานที่เรียกว่า “Anti-Corruption Bureau (ACB)” และพัฒนาให้มีอิสระมากขึ้นโดยใช้ระบบ “Performance-based review” กับข้าราชการระดับสูง ผลลัพธ์จากการดำเนินงาน พบว่า ลดคอร์รัปชันในงานบริการภาครัฐลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (รายงานของ Transparency India, 2003) และ Andhra Pradesh ได้รับการจัดอันดับสูงสุดใน “Ease of Doing Business” ของอินเดีย (ปี 2016–2018) (Ministry of Commerce, Government of India. (2018)
5. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเมืองใหม่ (Smart Cities & Infrastructure)
โครงการ Amaravati Project (2015) ได้วางแผนสร้าง “เมืองหลวงใหม่อัจฉริยะ” (smart capital) หลังรัฐแบ่งออก (Telangana แยกออกใน 2014) โดยร่วมมือกับ รัฐบาลสิงคโปร์ ออกแบบเมืองด้วยแนวคิด “People First, Technology Next” เน้นเศรษฐกิจสีเขียวและโครงสร้างพื้นฐานโปร่งใส
Reference
India Today. (2003). Cyber State: Naidu’s digital governance model. New Delhi.
Kennedy, L. (2007). Regional Industrial Policies Driving Urban Spaces in Hyderabad, India. Habitat International, 31(1): 38-53.
Ministry of Commerce, Government of India. (2018). Ease of Doing Business Rankings of States. New Delhi
Prahalad, C.K. (2005). The Fortune at the Bottom of the Pyramid. Wharton School Publishing, Philadelphia.
World Bank. (2005). Andhra Pradesh Rural Poverty Reduction Project: Implementation Report. Washington, DC