ตัวแบบ-แบบธุรกิจดิจิทัล
Amazon เริ่มกิจการในปี ค.ศ. 1994 โดย Jeff Bezos (บัณฑิตวิศวกรรมไฟฟ้าและวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จาก Princeton University) เป็นร้านให้บริการเช่าหนังสือระบบออนไลน์ อันช่วงเวลาเดียวกันกับที่เครือข่ายอินเตอร์เน็ต เว็บไซต์ และอีเมล์ได้รับอนุญาตให้ใช้เพื่อการพาณิชย์ได้เป็นครั้งแรก โดยที่ Bezos เห็นว่า มีจำนวนผู้คนที่เข้ามาใช้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นไปในอัตราที่สูงมากถึง 2300% Amazon เป็นกิจการข้ามชาติของอเมริกันด้านเทคโนโลยี ที่ให้บริการทั้ง e-commerce, cloud computing, online advertising, digital streaming และ artificial intelligence เป็น 1/5 ของกิจการชั้นนำที่ประกอบไปด้วย Google, Apple, Meta, และ Microsoft
Amazon ได้รับการยอมรับกันโดยทั่วไปว่าเป็น Disruptor ที่เป็นนำการเปลี่ยนแปลงผ่านนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและการลงทุนเพื่อสร้างกำไร เป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ของโลกออนไลน์ เป็นบริษัทที่มีรายได้สูงเป็นลำดับ 2 ของโลกและของสหรัฐอเมริกา (รองจาก Walmart) และมีการจ้างงานที่สูงเป็นลำดับ 2 ของสหรัฐอเมริกา (รองจาก Walmart) 82 % ของผู้ใช้บริการของ Amazon เป็นการใช้งานในสหรัฐอเมริกา ในขณะเดียวกันบริษัทก็ลงทุนเพื่อการวิจัยสูงมากถึง 73 พันล้านเหรียญสหรัฐ
Amazon จดทะเบียนหลักทรัพย์ในตลาด Nasdaq ในปี ค.ศ.1997 (ใช้เวลา 3 ปี หลังจากจัดตั้งบริษัท) เข้าซื้อกิจการ Whole Foods เจ้าของธุรกิจค้าปลีก ในปี ค.ศ. 2017 ปัจจุบันมีรายได้รวม 574.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีการจ้างงาน 1.525 ล้านคน
Alibaba Group Holding Limited เจ้าของแบรนด์ Alibaba จัดตั้งโดย Jack Ma (บัณฑิตจาก Hangzhou Normal University) เป็นกิจการข้ามชาติที่ดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยี ที่มีบริการ E-commerce, Retail, Internet, และเทคโนโลยี จัดตั้งขึ้นเมื่อ 28 มิถุนายน 1999 ที่เมืองหังโจว มลฑลเจ้อเจียง มีบริการเครือข่ายแบบ C2C, B2C, B2B ให้บริการทั้งคนจีนและคนทั่วโลก
แรงบันดาลใจในการจัดตั้ง Alibaba ของ Ma มาจากการเดินทางไปสหรัฐอเมริกาในฐานะมัคคุเทศก์ ซี่งเป็นอาชีพที่เขาจะทำได้ หลังจากจบการศึกษา และไปสมัครงานในที่ต่าง ๆ และที่ทำงานเหล่านั้นล้วนแต่ปฏิเสธ แม้กระทั่งร้าน KFC ที่อเมริกา เพื่อนแนะนำให้เขาสมัครใช้บริการ Amazon เพื่อซื้อสินค้าจากระบบซื้อขายออนไลน์ ซึ่งเขาไม่รู้จักมาก่อน และเขาพบว่าในระบบของ Amazon ไม่มีสินค้าจากจีนให้บริการ และไม่มีภาษาจีน เพราะในช่วงนั้น ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของจีนเลือกที่จะใช้ระบบ Single gateway ทำให้ไม่มีความสะดวกในการเชื่อมโยงระหว่างจีนกับประเทศอื่น นอกจากนั้น ภาษาจีนก็เป็นเรื่องยุ่งยากต่อการทำความเข้าใจสื่อสารกับโลก ความคิดเบื้องต้นของ Ma คือ ควรจะนำเอาสินค้าจากจีนเข้ามาวางจำหน่ายในพื้นที่ E-commerce ของ Amazon ซึ่งมีโอกาสที่จะเขาจะทำรายได้อย่างมากมาย เพียงแค่เขาเป็นผู้สร้างระบบรวบรวมและจัดการสินค้าเหล่านั้น เพราะ Amazon ได้ลงทุนด้านระบบและการจัดจำหน่ายไว้แล้ว หรือควรจะทำอีกแบบหนึ่ง คือ เป็น Amazon ของจีน แล้วเชื่อมกับพื้นที่ของโลก แต่ทางเลือกนี้ จะติดขัดตรงที่การใช้อินเตอร์เน็ตของประชาชนจีนมีเพียง 1% ของประชากรรวม (ยังไม่เป็นที่รู้จัก/เป็นที่แพร่หลาย)
Ma ตัดสินใจเลือกแนวทางที่สอง เพราะต้องการให้ระบบ E-commerce เป็นเสมือนหนึ่ง Infrastructure ของประเทศและคนจีน ให้คนจีนได้มีโอกาสเรียนรู้และพัฒนาตนเองไปพร้อมกับการเกิดขึ้นของ ICTs คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต อีเมล ฯลฯ
การเริ่มต้น หรือตัวแบบธุรกิจของ Alibaba ต่างไปจาก Amazon อย่างน้อย 2 เรื่องด้วยกัน คือ หนึ่ง ในขณะที่ Amazon สร้างธุรกิจร้านเช่าหนังสือออนไลน์แบบ B2C model เป็นการสร้างธุรกิจที่พร้อมให้บริการกับผู้บริโภคได้เลย เพราะการได้มาซึ่งหนังสือเช่า หรือผลิตภัณฑ์ สินค้าต่าง ๆ ก็เป็นเรื่องที่ Amazon สร้างจัดหาได้ไม่ยากนัก เพราะสังคมอเมริกันมีการใช้อินเตอร์เน็ตกันอย่างแพร่หลาย แต่จีน มีการใช้งานเพียง 1% โอกาสที่ Ma จะรวบรวมสินค้าจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ในขณะเดียวกัน คนทั่วไปก็รู้จักเรื่องเหล่านี้ในวงแคบ ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ Alibaba จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับการติดต่อสื่อสารกันระหว่าง SMEs ด้วยกัน เพราะเป็นกลุ่มคนและธุรกิจที่มีโอกาสรู้จัก เข้าถึง และใช้งานได้มากกว่าคนทั่วไป รูปแบบของการสร้างธุรกิจของ Alibaba และ Ma กลับเป็นไปตามตัวแบบ B2B ที่เริ่มต้นด้วยจากการทำความเข้าใจต่อ SMEs ที่เป็นทั้งผู้ประสงค์จะขาย หรือประสงค์จะซื้อ (ผลิตภัณฑ์และบริการ) เพื่อรวบรวมข้อมูลเข้าสู่ระบบค้าขายแบบ E-commerce ทั้งตามกระบวนการเข้าพบลูกค้า ตามกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ จัดประชุม จัดอบรมตามโครงการสร้างความรู้ ฯลฯ และการสื่อสารผ่าน Mass media เว็บไซต์ และอีเมล
สอง Ma ใช้เวลาสร้างธุรกิจ Alibaba ยาวนานถึง 15 ปี จึงสามารถนำบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ ในปี ค.ศ. 2014 และก็ไม่ได้จดทะเบียนที่เซี่ยงไฮ้ หรือฮ่องกง แต่เป็นตลาดนิวยอร์ค มีกิจการในเครือที่เป็นแบรนด์ที่โลกรู้จักอีกหลายรายการ เช่น Taobao และ Lazada ปัจจุบัน (ปี ค.ศ.2024) มีรายได้ 130.35 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีการจ้างงาน 204,891 คน
Hello Tractor เป็นกิจการที่จัดตั้งขึ้นในเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 2014 เป็นผลงานจากการริเริ่มของ Jehiel Oliver ที่นำเอาความสามารถในการให้บริการของ ICT-Digital เข้ามารองรับกลไกการทำงานของ application เพื่อให้บริการที่ไนจีเรียในรูปแบบเดียวกับการบริการของ Uber หรือ Bolt เพื่อบริการรถยนต์บ้านที่ยินดีให้บริการเป็นแท๊กซึ่ในสหรัฐอเมริกา Grab ที่ริเริ่มพัฒนาจากบริการของแท๊กซึ่ที่เป็นแท๊กซึ่คุณภาพและปลอดภัยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ Didi ในจีน แต่บริการของ Hello Tractor ไม่ใช่บริการแท๊กซึ่เพื่อการเดินทาง แต่เป็น Tractor สำหรับเป็นเครื่องจักรกลการเกษตร (ลงทุนแมน, 2021) ทั้งนี้ก็เพราะว่า ไนจีเรียและอาฟริกามีความต้องการ Tractor เพิ่มเติมอีกมาก หากเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่น โดยค่าเฉลี่ยของการมีบริการ/การใช้งานของ Tractor ต่อพื้นที่ 100 ตารางกิโลเมตรของโลกมีค่าเฉลี่ยอยู่ 200 คัน แต่ที่อาฟริกาและไนจีเรีย มีเพียง 8 คัน และ 6.5 คัน ตามลำดับ ดังที่ปรากฎตาม รูปภาพที่ 1 ยิ่งไปกว่านั้น ภาคเกษตรของอาฟริกาและไนจีเรีย ยังเผชิญกับการแย่งชิงแรงงาน อันเนื่องมาจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเมืองและแรงงานสูงวัย (Oliver, 2019)
รูปภาพที่ 1 การมีบริการของ Tractor ของไนจีเรียและอาฟริกาเปรียบเทียบกับพื้นที่ภูมิภาคอื่น
ที่มา Oliver, 2019
Hello Tractor เป็นกิจการแบบบริษัท ให้บริการที่อิงการจัดการแก้ปัญหาการผลิตของระบบเศรษฐกิจอันเป็นรูปแบบของการประกอบการธุรกิจเพี่อสังคม (Social entrepreneurship) ในขณะเดียวกันก็ได้ได้รับการสนับสนุนทั้งจากภาครัฐ องค์กรระหว่างประเทศ และสร้างความร่วมมือแบบธุรกิจกับบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ เช่น Olam, John Deere, HEIFER, Vodafone, Kubota และโครงการอาหารโลกภายใต้การสนับสนุนขององค์การสหประชาชาติ (World Food Program) กิจกรรมของบริษัท เริ่มต้นด้วยการจัดตั้งฝ่ายส่งเสริมธุรกิจ ที่มุ่งให้ความรู้และแนะนำให้เกษตรกรใช้งานระบบ application สร้างระบบการติดตามการทำงานของเครื่องจักรกลผ่าน GPS ผลจากการใช้ Tractor ทำให้การผลิตของเกษตกรมีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม 50 % ประหยัดเวลาไปได้มากถึง 40 เท่าตัว (หากใช้แรงงานคน) (ลงทุนแมน, 2021: Tong, 2020)
ผลการสำรวจ ณ ปี ค.ศ. 2020 พบว่า ผลผลิตของเกษตรกรเพิ่มขึ้น 83 % และมีรายได้เพิ่มขึ้น 73 % มีเกษตรกรที่ได้ใช้เครื่องจักรกลเป็นครั้งแรกมากถึง 55 % (Shrader, 2020) ประเด็นที่สำคัญของการบริการระบบการเรียกใช้บริการ Hello Tractor จึงไม่เป็นแต่เพียงปัจจัยที่นำไปสู่การเพิ่มความสามารถในการผลิตและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น แต่เป็นกลไกที่ทำให้ “เกษตรกรรายย่อย” (Smallholder) ซึ่งมีจำนวน 500 ล้านครัวเรือน (World Bank, 2016) ได้มีโอกาสเข้าถึงเครื่องจักรกล และเทคโนโลยีเหล่านี้
จนถึงสิ้นปี ค.ศ.2021 Hello Tractor ได้ขยายบริการธุรกิจไปยัง 17 ประเทศ ทั้งในทวีปแอฟริกาและเอเชีย สร้างรายได้ให้กับเจ้าของแทรกเตอร์ที่เข้าร่วมโครงการ (ทั้งบริษัทและเกษตรกรเจ้าของรถ) 12,600 ล้านเหรียญสหรัฐ (Oliver, 2019) เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของเกษตรกรไป มากกว่า 500,000 ราย มีการจ้างงาน ทั้งทางตรงและทางอ้อมมากกว่า 2 ล้านตำแหน่ง และช่วยผลิตอาหารให้กับชาวแอฟริกาไปแล้ว 37 ล้านเมตริกตัน และได้รับการคัดเลือกจากนิตยสารฟอร์จูนเป็นบริษัทเอกชนที่มีส่วนต่อการเปลี่ยนโลกในปี ค.ศ.2021 เป็นกิจการในระบบทุนนิยมที่สร้างสรรค์เครื่องมือไปร่วมแก้ปัญหาของโลกที่ไม่เคยได้รับการแก้ไขมาก่อน หรือที่รู้จักกันในนาม Fortune’s Change the World List ลำดับที่ 3 (ลงทุนแมน, 2021; Fortune, 2021)
กล่าวโดยสรุป ความสำเร็จและการขยายตัวของการบริการ IoT และธุรกิจแพลตฟอร์มเพื่อบริการ Tractor ของ Hello Tractor ได้สร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการเครื่องจักรกลของเกษตรกรในทวีปอาฟริกา และการเข้าถึงของเกษตรกรรายย่อยในประเทศต่าง ๆที่ใช้บริการ (17 ประเทศ) อันเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างความสัมพันธ์ในระบบการผลิตของเศรษฐกิจของเกษตรกรรายย่อย พื้นที่ที่ไม่เคยมีบริการใช้เงานเครื่องจักกล และการสร้างความสามารถในการผลิตอาหารขึ้นใหม่อีกส่วนหนึ่ง อันเป็นตัวอย่างของผลงานที่สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ (System transformation) ที่เกิดขึ้นทั้งระบบ
Telemedicine and telehealth
การให้บริการแพทย์ในระบบการสื่อสารทางไกล (Telemedicine) เป็นบริการทางแพทย์-โดยแพทย์/กระบวนการทางการแพทย์ที่อาศัยกลไกการทำงานผสมผสานกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการสื่อสารและการจัดการข้อมูล หรือ ICTs แต่ WHO ก็มีนิยามอีกคำหนึ่งว่า การบริการสาธารณสุขทางไกล (Telehealth) ซึ่งเป็นบริการเรื่องสุขภาพ-สาธารณสุขวิชาชีพที่ผสมผสานกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการสื่อสารและการจัดการข้อมูล หรือ ICTs เช่นเดียวกัน ดังนั้น ในที่นี้จะใช้สองคำนี้ในความหมายเดียวกันตามนิยามของ WHO
ตัวอย่างของบริการของ Telemedicine ที่เป็นที่นิยมของการให้บริการในอาฟริกา เช่น LaFlya ที่ไนจีเรีย เป็นบริการที่ให้คำปรึกษาทางการแพทย์ด้วยแพทย์ พยาบาล และผู้เชี่ยวชาญตลอด 24 ชั่วโมง กับลูกค้า/คนไข้ผู้ใช้บริการที่มีทั้งคนไข้ประจำและคนไข้แบบจร (ทั่วไป) หรือ Healthforce ที่อาฟริกาใต้ เป็นบริการโดยคำปรึกษาของพยาบาลวิชาชีพในพื้นที่บริการแบบแพลตฟอร์มเป็นเบื้องต้น หากมีความจำเป็นต้องให้บริการโดยแพทย์ ก็จะเป็นบริการผ่านวีดีโอ การให้บริการนี้เริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 2018 เป็นบริการแบบ Non-Profit Organizations จนถึงปัจจุบัน ได้ให้คำปรึกษาโดยพยาบาลไปแล้ว 5 ล้านครั้ง และบริการโดยแพทย์ไปทั้งสิ้น 3 แสนครั้ง นับได้ว่า เป็นบริการที่สร้างการเข้าถึงซึ่งบริการทางการแพทย์ให้กว้างขวางและทั่วถึงของประชาชนในอาฟริกาใต้
บริการข้างต้น เป็นการให้บริการแบบที่ทั้งสองฝ่ายต้องใช้บริการในเวลาที่นัดหมายตรงกัน ซึ่งเป็นไปตามการสื่อสารแบบ Synchronous แต่ก็มีบริการอีกแบบหนึ่ง ที่คนไข้กับแพทย์ พยาบาล และผู้เชี่ยวชาญ ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาที่ตรงกัน ก็สามารถให้บริการเพื่อการดังกล่าวได้ ผ่านการฝากข้อความ หรือที่เรียกว่าเป็นบริการแบบของการสื่อสารแบบ Asynchronous เช่น กรณีของ Tobba ที่ไนจีเรีย และ Signapps ที่อาฟริกาใต้ อันเป็นการเพิ่มทางเลือกและขยายช่องทางการเข้าถึงการบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขให้กว้างออกไปมากยิ่งขึ้นกว่าปกติ ตามความสามารถที่เกิดขึ้นใหม่ของ ICTs
การขยายตัวของ Telemedicine และ Telehealth ยังขยายความร่วมมือไปยังกิจการประกัน เพื่อสร้างการเข้าถึงต่อผู้ที่มีความสามารถทางการเงินที่เพียงพอที่จะเข้าถึงบริการทางการแพทย์ในโปรแกรมต่าง ๆ ที่ยกระดับการเข้าถึงมากขึ้นไปจากปกติ เป็น Insurance and telemedicine เช่น FWD Care Telemedicine หรือ Telemedicine Services ของ Allianz เป็นต้น ในขณะที่ ในอาฟริกา Insurance and telemedicine ก็เป็นแนวทางสำคัญต่อการแก้ปัญหาการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ เพราะมีประชากรมากกว่า 400 ล้านคน ที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงบริการ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เรียกว่า Sub-Sahara African และ 11 ล้านคน เป็นคนจนที่ไม่เงินเพียงพอที่จะเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้เลย (UNDP, 2022)
ตัวอย่างของการนำเอา ICTs และระบบทางไกลมาพัฒนาเป็นตัวแบบธุรกิจของไทย ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างบริษัท ซีที เอเซีย โรโบติกส์ จำกัด จดทะเบียนบริษัทเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2552 โดยคุณเฉลิมพล ปุณโณทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และเป็นผู้พัฒนาหุ่นยนต์บริการตัวแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชื่อว่า “ดินสอ” ด้วยวิสัยทัศน์ที่มองเห็นว่าอนาคตอันใกล้หุ่นยนต์จะมาช่วยอำนวยความสะดวกให้มนุษย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีการขาดแคลนทรัพยากรมนุษย์บริการด้านการดูแลสุขภาพ และริเริ่มกิจการแบบ Project Start-up ที่นำเอาความรู้และเทคโนโลยีด้าน Computational Intelligence: CI มาใช้งานช่วยเหลือการสื่อสารสำหรับผู้พิการทางการได้ยิน ต่อมา ในปี พ.ศ. 2553 ได้มีการพัฒนาหุ่นยนต์สำหรับการบริการในร้านอาหาร และในปี พ.ศ. 2558 ได้พัฒนาหุ่นยนต์ดินสอ สำหรับให้บริการดูแลผู้สูงวัยโดยเริ่มใช้งานทั้งในไทยและญี่ปุ่น เป็นปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทำหน้าที่สนับสนุนการทำงาน
การบริการสุขภาพในพื้นที่ชุมชน มีการทดลองใช้งานที่จังหวัดชัยนาท (เทศบาลตำบลห้วยงู) (และอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่) ตามการสนับสนุนโครงการของ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อช่วยเหลือเป็นเครื่องมือที่ช่วยงานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และระบบการส่งต่อของสาธารณสุขอำเภอ ทำหน้าที่เป็นสัญญาณคอยเตือน/สั่งการให้ดูแลตัวเอง ทานยา ทานอาหารตามช่วงเวลาต่าง ๆ รวมทั้งทำหน้าที่ดูแล สอดส่อง ดูแลติดตามผู้ป่วยหรือผู้ที่อยู่ในความดูแลผ่านกล้องวงจรปิด เรียกขอความช่วยเหลือแบบฉุกเฉิน ให้รถพยาบาลไปรับถึงบ้าน ฯลฯ
ปัจจุบัน บริการของหุ่นยนต์ดินสอมีให้บริการในสถานพยาบาล มหาวิทยาลัยการแพทย์ของรัฐ และการใช้งานในโรงพยาบาลเอกชนมากกว่า 50 แห่ง และหุ่นยนต์ดินสอในรุ่นปัจจุบัน ได้พัฒนาเป็นรุ่นที่ 3 ที่มีบริการเสริมเพื่อการต่าง ๆ และมีการโต้ตอบที่หลากหลายมากกว่าการให้บริการทางการแพทย์ เช่น การบริการรายการบันเทิง รายการธรรมะ เกมฝึกสมอง การวัดความดัน รวมทั้งการให้บริการแบบวีดีโอคอล เพื่อเป็นบริการสำหรับการใช้งานที่หลากหลายมากกว่าการพยาบาล
บริษัทได้ทำการวิจัยและสร้างนวัตกรรม AI ให้หุ่นยนต์ดมกลิ่นจากลมหายใจของคนและสามารถบอกได้ว่าบุคคลนั้นเป็นโรคมะเร็งหรือไม่ โดยหุ่นยนต์ดินสอ สามารถวิเคราะห์กลิ่นของลมหายใจได้ภายใน 20 นาที โดยสามารถวิเคราะห์ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งใน 2 โรค คือ มะเร็งปอดและมะเร็งเต้านม มีโครงการพัฒนาให้หุ่นยนต์สามารถวินิจฉัยโรคมะเร็งได้อีก 4 ชนิด คือ มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ มะเร็งโพรงจมูก และมะเร็งถุงน้ำดี พร้อมกันนี้ ยังร่วมร่างหลักสูตรการเรียนการสอน การใช้นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) สนับสนุนงานด้านการแพทย์ ให้กับนักศึกษาแพทย์ในมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาลัยจุฬาภรณ์ และมหาวิทยาลัยหัวเฉียว
นอกจาก ส่งออกหุ่นยนต์ไปดูแลผู้สูงอายุที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว ผลความสำเร็จในการให้บริการตลาดในไทยที่เริ่มจากที่ชัยนาทและแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่แล้ว ปัจจุบัน หุ่นยนต์ดินสอมีใช้บริการทั่วไป
กล่าวโดยสรุป การให้บริการการแพทย์และสาธารณสุขทางไกลทั้ง 4 ตัวอย่างจากต่างประเทศ และกรณีของหุ่นยนต์ดินสอ นับได้ว่า เป็นตัวแบบของ “ธุรกิจหรือการประกอบการเพื่อสังคม” (Social entrepreneurship) ที่เป็นการประกอบการที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจได้ในหลายรูปแบบ ทั้งจากค่าบริการ ค่าสมาชิก การรับบริจาคหรือสนับสนุนจากการบริจาคเพื่อสาธารณกุศล รวมทั้งจากค่าใช้จ่ายของภาครัฐ ในขณะเดียวกันธุรกิจที่ประกอบการนั้น นับได้ว่าเป็นกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญต่อการแก้ปัญหาทางสังคม-สาธารณสุขของผู้คนและโลก
<hr>
อ้างอิง
สุนทร คุณชัยมัง. ตัวแบบนวัตกรรมธุรกิจ = Innovative business model. — ปทุมธานี : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรังสิต, 2567. 165 หน้า.
…………….……
เรียบเรียงโดย ดร.สุนทร คุณชัยมัง ผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรมและสร้างสรรค์ความรู้ (Innovation and Creativity in Knowledge Academy : ICIK) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์