คลื่นลูกใหม่ของระบบเศรษฐกิจ (New S-Curve) – ปรากฎการณ์ใหม่ที่ชุมชน

 

การทำความเข้าใจเบื้องต้นต่อ New S-Curve

          คลื่นลูกใหม่ของระบบเศรษฐกิจ (New S-Curve) คือ การเกิดขึ้นของวงจรใหม่ของธุรกิจที่เข้ามารับช่วงต่อหรือแทนที่การทำหน้าที่เป็น “กลไก” (Mechanism) ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของเมือง ประเทศ หรือภูมิภาค ซึ่งเป็นพื้นที่หนึ่ง ๆ โดยอธิบายตามรูปลักษณะของเส้นโค้งตัว S ตามรูปภาพข้างต้น ซึ่งเป็นเส้นที่แสดงถึงความหมายของการขับเคลื่อนของปัจจัยทางเศรษฐกิจชุดหนึ่งที่ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจเริ่มก่อตัว ปรับปรุง (Early adoption) แล้วค่อยขยายตัวเติบโตไปจนถึงจุดสูงสุดหรือการอิ่มตัวของระบบ (Maturity point) หลังจากนั้น ก็จะนำไปสู่จุดสิ้นสุดของความสามารถของปัจจัยการผลิตหรือเทคโนโลยี หรือเป็นจุดหยุดนิ่ง-เคลื่อนที่แบบแบนราบแล้วคลายตัวลง (Plateau & decline) ตามทฤษฎี จะชี้ว่า เมื่อเส้นโค้งตัว S เคลื่อนตัวมาถึงจุดสูงสุด ณ จุด ๆ นั้น ได้สะท้อนถึงความต้องการเทคโนโลยีใหม่ เพื่อมาสร้างสรรค์ปัจจัยการผลิตทางเศรษฐกิจแบบใหม่ และเข้ามาสร้างกลไกตัวใหม่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อันเป็นจุดเริ่มต้นของยุทธศาสตร์ธุรกิจและผลิตภัณฑ์ใหม่ และเรียกพื้นที่ทางโอกาสของกระบวนการนี้ว่า “หน้าต่างของนวัตกรรม” (Innovation window) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์เศรษฐกิจขึ้นใหม่ และเป็นเส้นโค้งตัว S เส้นใหม่ ที่เรียกว่า New S-Curve กล่าวโดยสรุป การขับเคลื่อนเศรษฐกิจหนึ่ง ๆ จะมีกลไกหรือปัจจัยการผลิตหรือเทคโนโลยีที่เป็นแกนกลาง หากกลไกเหล่านั้นได้ถูกใช้งานไปอย่างเต็มที่และถึงจุดสูงสุดของการพัฒนา ก็จะทำให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจประสบภาวะกับความคงที่หรือเต็มที่ตามไปด้วย ในขณะเดียวกัน ก็จะเห็นได้ว่า การเกิดขึ้น ปรับตัว และขยายตัวของเส้นโค้งตัว S ใหม่ นั้น เกิดขึ้นในอีกพื้นที่หนึ่ง หรืออีกระบบหนึ่ง แล้วเข้ามาทำหน้าที่เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจขึ้นไปใหม่อีกครั้งหนึ่ง (บนพื้นฐานของโครงสร้างระบบเศรษฐกิจและสังคมที่ถูกพัฒนาไว้แล้วโดยเส้นโค้งตัว S เดิม เป็นพื้นฐาน)

 

การสร้างเส้นโค้งตัว S แบบ New S-Curve ของเศรษฐกิจชุมชน

          การประกอบธุรกิจของวิสาหกิจชุมชนที่ประสบความสำเร็จ เป็นตัวอย่างที่ดีที่เหมาะสมสำหรับการทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและสังคมในระดับชุมชน หมู่บ้าน ตำบล หรือท้องถิ่นในความหมายรวม ยกตัวอย่าง ความสำเร็จจากการประกอบการธุรกิจของวิสาหกิจชุมชนชีววิถีตำบลน้ำเกี๋ยน อ.ภูเพียง จ.น่าน ซึ่งมีรายได้ 40 ล้านบาท จากการขายผลิตภัณฑ์เวชสำอางจากการแปรรูปสมุนไพร ด้วยกระบวนการผลิตที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทั้งมาตรฐานอาหารและยา และมาตรฐาน Good Manufacturing Practice: GMP โดยที่รายได้ดังกล่าวมาจากการขายผ่านช่องทางการตลาดทั้งแบบ Original Equipment Manufacturer: OEM ตลาดโมเดิร์นเทรด งานแสดงสินค้าในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง ช่องทางในระบบสื่อสังคมออนไลน์ e-Commerce และหน้าร้านของวิสาหกิจ รวมทั้งรองรับคณะศึกษาดูงาน ข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า รายได้ของวิสาหกิจชุมชนจำนวน 40 ล้านบาทนี้ เป็นรายได้ใหม่ของระบบเศรษฐกิจในระดับชุมชนที่เกิดขึ้นด้วยปัจจัยการผลิตใหม่ และกลไกใหม่ คือ งานมาตรฐาน ระบบการผลิตแบบโรงงาน มีการขายหรือจัดการงานตลาดหลายรูปแบบและรายได้ทางเศรษฐกิจในช่องทางใหม่ โดยกล่าวโดยรวมได้ว่า เป็น New S-Curve ของชุมชนในระดับตำบล ซึ่งต่างไปเส้นโค้งตัว S เดิม ที่เป็นการผลิตในพื้นที่สวน ไร่ นา หรือหาของป่าอันเป็นการผลิตและสร้างรายได้ตามวงจรหรือกระแสหมุนเวียนแบบตามฤดูการผลิต และรอบปี

กล่าวได้ว่า ความสำเร็จในการประกอบการของวิสาหกิจชุมชนที่สร้างรายได้ขึ้นใหม่จากการดำเนินธุรกิจที่นำมาซึ่งปัจจัยการผลิตหรือเทคโนโลยี่ใหม่ รวมทั้งกระบวนการดำเนินงานที่แตกต่างไปจากการผลิตทางเศรษฐกิจแบบเดิมของชุมชน ล้วนแต่เป็นการริเริ่มสร้าง New S-Curve ขึ้นใหม่ของระบบเศรฐกิจและสังคมของไทย ไม่ว่าจะเป็นอุ่มแสง (ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นการผลิตข้าวแบบนาอินทรีย์ งานมาตรฐาน และการจัดการค้ากับต่างประเทศ) กลุ่มฐานเกษตรยางพารา (บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นการพัฒนายางรมควันด้วยระบบมาตรฐาน) วิสาหกิจชุมชนกาแฟแหลมสิงห์ (ชุมพร-ที่พัฒนาให้เกษตรกรปลูก ดูแล และเก็บเกี่ยวตามระบบมาตรฐาน และโรงงานก็ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP) ฯลฯ

การสร้าง New S-Curve ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานด้วยปัจจัยการผลิตและเทคโนโลยีชุดใหม่ (อีกชุดหนึ่ง) ที่สร้างความสำเร็จในการการประกอบการธุรกิจแปรรูปในกรณีต่าง ๆ ข้างต้น สามารถประยุกต์ใช้กับการทำความเข้าใจต่อการดำเนินงานธุรกิจบริการหรือการท่องเที่ยวของวิสาหกิจชุมชนได้เช่นกัน เพียงแต่ว่า ปัจจัยของความใหม่ในธุรกิจบริการ อาจจะไม่ใช่เรื่องเทคโนโลยี แต่จะเป็น “ส่วนผสมใหม่ของการบริการ” (New combination of services) เช่น มาตรฐานการท่องเที่ยว การเชื่อมโยงการตลาดแบบ Co-campaign กับเครือข่ายโรงแรมหรือบริษัทนำเที่ยว หรือการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น โลเคิล อล๊อท ซึ่งเป็นเมนูอาหารพื้นบ้านของบริษัท โลเคิล อไลค์ จำกัด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) เป็นต้น

 

บทส่งท้าย

ความสำคัญของ New S-Curve ที่มีการริเริ่มสร้างสรรค์ขึ้นในระดับชุมชนและท้องถิ่น เป็นการเริ่มต้นที่มีนัยต่อการสร้างการเปลี่ยนแปลงในระยะถัดไปของการพัฒนาชุมชนทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างยิ่ง เพราะ ด้านหนึ่ง ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนถึงความสามารถ และความเข้มแข็งที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นโดยชุมชนเอง อันเป็นนัยของการพึ่งตนเองในเชิงโครงสร้าง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ อีกด้านหนึ่ง เป็นนัยที่แสดงถึงความต้องการระบบแวดล้อมสนับสนุน (Ecosystem) ที่พัฒนาและยกระดับไปจากงานแนะนำและการจัดการความรู้แบบเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการด้านความรู้ เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ทรัพยากรมนุษย์ และการจัดการด้านการตลาดและการเงิน รวมทั้งการประสานงานกับกลไกการบริหารท้องถิ่นของภาครัฐ

 

เรียบเรียงโดย
ดร.สุนทร คุณชัยมัง
อาจารย์ประจำ วิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต
25 เมษายน 2568

Categories: