จาง อีหมิง (Zhang Yiming) และเหลียง รูโบ (Liang Rubo) กับการสร้างสรรค์ TikTok

จาง อีหมิง (Zhang Yiming) เกิดเมื่อ 1 เมษายน ปี ค.ศ. 1983 (เมือง Longyan มลฑล Fujian) เป็นผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ByteDance เจ้าของแพลตฟอร์ม-สื่อสังคมออนไลน์แบบวีดีโอสั้นที่รู้จักกันทั่วไปว่า TikTok ในบริการทั่วโลก แต่เฉพาะในจีนจะรู้จักกันในนาม Douyin ประวัติส่วนตัวของอีหมิง จบการศึกษาด้านวิศวกรคอมพิวเตอร์จาก Nankai University ที่เมื่อง Tianjin ของจีน แล้วเริ่มงานกิจการของบริษัทขนาดเล็กด้านเว็บไซต์ในจีนก่อนที่จะไปร่วมงานกับ Microsoft ในปี ค.ศ. 2008 แต่ก็ทนอยู่กับระบบงานแบบบริษัทไม่ได้ จึงลาออกไปจัดตั้ง Fanfou และ Expedia ซึ่งเป็นกิจการแบบ Startup ในปี ค.ศ. 2009 แล้วจัดตั้ง ByteDance ขึ้นในปี ค.ศ. 2012 เพื่อริเริ่มให้บริการเป็นแอปพลิเคชั่นผ่านโทรศัพท์มือถือเพื่อแชร์ข้อมูลที่เคลื่อนไหวเป็นภาพและเสียง-วิดีโอสั้น ๆ ในนามของ Douyin ที่เริ่มให้บริการในปี ค.ศ. 2015 หลังจากได้รับทุนสนับสนุนแบบร่วมทุนจาก Venture capital จาก Susquehanna International Group (กิจการ VC ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ Pennsylvania สหรัฐอเมริกา เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนเข้ามาใช้บริการในพื้นที่การสื่อสารของสังคมออนไลน์ และใช้งานในพื้นที่ของ Information communication Technology ซึ่งแต่เดิมการทำหน้าที่นี้ มีเพียงเครื่องมือการค้นหาข้อมูล (Search engine) คือ Baidu (ซึ่งก็คือ Google สำหรับการค้นข้อมูลภาษาจีน) จนทำให้มีคนใช้แอปนี้มากถึง 13 ล้านคนต่อวัน ต่อมา จึงได้ขยายตัวการใช้แอปพลิเคชั่นในพื้นที่อื่นทั่วโลกในนาม TikTok ในปี ค.ศ. 2018

การจัดตั้ง ByteDance ของอีหมิง ได้มีผู้ร่วมก่อตั้งอีกคนหนึ่ง คือ เหลียง รูโบ (Liang Rubo) ปัจจุบัน ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการของ ByteDance หลังจากอีหมิง ก้าวลงจากตำแหน่งเมื่อปี ค.ศ. 2021 โดยรูโบ จบการศึกษาวิทยาศาสตร์บัณฑิต จาก Nankai University และเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของอีหมิง

จากรายงานของ DataReportal (2024) ระบุว่า ในปี 2024 TikTok มีผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 1.56 พันล้านคน ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของแพลตฟอร์มนี้ มีการใช้งาน 141 ประเทศ 39 ภาษา ผู้ใช้บริการโดยส่วนใหญ่เป็นคนอายุต่ำกว่า 24 ปี ถัดมาก็เป็นผู้มีอายุที่ต่ำกว่า 34 ปี โดยรวมคนใช้งานใน 2 ช่วงอายุข้างต้นคิดเป็น 34.4% โดยมีผู้หญิงใช้งานมากกว่าผู้ชาย

ผู้นำและการนำในยุคดิจิทัล

ด้านนวัตกรรม อีหมิง ได้แสดงบุคลิกลักษณะของการเป็นผู้นำในด้านนี้หลายประเด็น คือ (1) การก่อตั้งกิจการ ByteDance ในปี ค.ศ. 2012 อันเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์แอปพลิเคชั่น ที่สร้างเครื่องมือเพื่อสร้างประชากรในพื้นที่ของ ICT ด้วย AI-driven content recommendation works อันเป็นการสร้างสรรค์กระบวนการทางสังคมที่จะนำไปสู่การพัฒนาข้อมูลในพื้นที่ของโลกข้อมูลออนไลน์ กิจการของอีหมิง เป็นผู้สร้างแพลตฟอร์มของพื้นที่การเปลี่ยนผ่านทางสังคมของสื่อสังคมออนไลน์ ที่เป็นข้อมูลสั้น (Prioritizing short-form) ผู้ใช้เป็นผู้สร้าง (User-generated) และการคละเรื่องให้อยู่ในพื้นที่ใกล้ๆ กัน (ท่ามกลางการค้นหาข้อมูลจากโทรศัพท์เคลื่อนที่) เพื่อชักชวนให้ผู้ใช้งานเข้าชมวีดีโอ-ใช้งานแอป/พื้นที่ที่ขยายตัวออกไปอีก (Algorithm-curated video content) นอกจากนี้ ยังได้ออกแบบแอปพลิเคชั่นเพื่อทำหน้าที่เดียวกัน แต่มีความแตกต่างกันในเรื่องของภาษาและวัฒนธรรม แล้วขับเคลื่อนไปพร้อม ๆ กัน จะเห็นได้จาก Douyin ในจีน และ TikTok ในพื้นที่สากล

สำหรับการเป็นผู้นำเพื่อการเปลี่ยนแปลงแบบการเปลี่ยนผ่าน (Transformational leadership) ก็จะเห็นได้จากการที่อีหมิงและทีมงาน ได้ริเริ่มสร้าง Douyin และ TikTok ด้วยการปฏิบัติการด้านข้อมูลที่ต่างไปจากการปฏิบัติการหรือกลไกการทำงานของ Facebook หรือ Twitter ซึ่งเป็นเรื่องที่ขับเคลื่อนข้อมูลไปตามเครือข่ายทางสังคม-เป็นผลงานของกระบวนการทางสังคม (Kircaburun et al., 2020) แต่ Douyin และ TikTok ได้มีบทบาทของเทคโนโลยีหรือ AI เข้ามาร่วมปฏิบัติการ และจงใจจัดลำดับแบบคละเรื่อง ซึ่งเป็นโปรแกรมที่นำไปสู่การขยายความสนใจไปยังเรื่องอื่น ๆ (Bresnick, 2019)

Reference

Bresnick, E. (2019). TikTok and the shifting trend in social media. Journal of Media Studies,

33(2), 45–58.

DataReportal. (2024, January). Digital 2024: Global overview report. Retrieved from

https://datareportal.com/reports/digital-2024-global-overview-report

Kircaburun, K., Alhabash, S., Tosuntaş, Ş. B., & Griffiths, M. D. (2020). Uses and gratifications of

problematic social media use among university students: A simultaneous examination of the Big Five of personality traits, social media platforms, and social media use motives. International Journal of Mental Health and Addiction, 18(3), 525–547. https://doi.org/10.1007/s11469-018-9940-6

Categories:

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *