Website, Social Media as a Tool and Business Initiative

         

          Site and E-commerce ซึ่งเป็นผลิตผล และโครงสร้างที่เกิดขึ้นตามความสามารถของเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสาร (ICTs) ที่มีการนำเอาผลิตผลและสาธารณูปการใหม่ อันความใหม่ที่เกิดชึ้นบนพื้นฐานของเครือข่าย (และปฏิสัมพันธ์ทางสังคม) ที่เกิดขึ้นนี้ไปใช้เป็นส่วนประกอบ (Network and New Combination) ของการดำเนินธุรกิจ และสร้างสรรค์เป็นตัวแบบธุรกิจ รวมทั้งการทำความเข้าใจไปตามกรอบทฤษฎีว่าด้วยการประกอบการและนวัตกรรมของ Schumpeter

 

Website

          การทำงานของเทคโนโลยีสำหรับการรวบรวม และจัดหมวดหมู่ข้อมูลทั้งที่เป็นตัวหนังสือ ภาพ และเสียง เพื่อให้ง่ายสำหรับการสืบค้นและสะดวกต่อการเข้าถึง และใช้งานของผู้บริโภค รวมทั้งเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายในองค์กรและระหว่างองค์กร การทำงานของ Website ข้างต้น สามารถให้บริการได้ทั้งข้อมูลองค์กร และโครงการ ทั้งบริการสำหรับงานราชการ องค์กรเอกชน มหาวิทยาลัย และสำหรับการขายสินค้า หรือที่รู้จักกันว่า E-commerce ดังนั้น เมื่อ Website ได้พัฒนาจาก Web 1.0 (Basic web) ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลเพื่อการอ่าน และเพียงพอต่อการเริ่มต้นธุรกิจแบบ E-commerce ยกตัวอย่าง Amazon, eBay, Alibaba  ไปสู่ Web 2.0 ซึ่งเป็น Participative web or Social web อันเป็นทำงานของพื้นที่ (Site) ที่รวบรวมข้อมูล และเพิ่มเติมบริการการตอบโต้สนทนาแลกเปลี่ยน เป็นที่ที่มีการส่งเสริมบทบาทและสร้างความเข้มข้นของปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ผ่านความสะดวก ผู้ใช้งานร่วมสร้างเนื้อหาร่วมกับเจ้าของ Site รวมทั้งเป็นพื้นที่ร่วมของการสร้างวัฒนธรรมและสังคม (ดังจะเห็นได้จากปฏิกิริยาต่าง ๆ ทางสังคมที่เกิดขึ้นจาก Social media) ก็ยิ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ทำให้กิจกรรมทางธุรกิจและตัวแบบของธุรกิจ ได้พัฒนาขยายตัวไปจากเดิมอย่างมากมาย เช่น Lazada, Shopee, Uber, Grab, Hello Tractor การขยายตัวของธุรกิจโลจิสติกส์ เช่น Flash Express, ไปรษณีย์ไทย, Kerry, J&T

          Web 3.0 (Semantic web) เป็นการพัฒนาความสามารถในการให้บริการของ www ไปอีกขั้นตอนหนี่ง ตามการทำงานแบบเครือข่ายความร่วมมือและการกระจายอำนาจออกจากศูนย์กลาง-อย่างมีประสิทธิภาพ (Decentralization) และมีการกำหนดขอบเขตของการดำรงอยู่ (ของสมาชิกในเครือข่าย) และการมองเห็น-การตรวจสอบอย่างทั่วถึง และโปร่งใส หรือที่รู้จักกันว่า เป็นเครือข่ายของการดำรงอยู่ด้วยกันที่เข้มข้นเป็น Blockchain การทำงานเชิงเครือข่ายในลักษณะนี้กำลังมีการปฏิบัติการและสร้างสรรค์ตัวแบบธุรกิจใหม่ ๆ ขึ้นสำหรับบางธุรกิจ เช่น ธุรกิจ Cryptocurrency  และการจัดการระบบ Grid ของโรงไฟฟ้าขนาดเล็กและการใช้พลังงานเฉพาะกลุ่มอาคารสมาชิก ฯลฯ

          สาระสำคัญอีกประการหนึ่งของ Web 3.0 คือ การปรับเปลี่ยนแบบแผนของการสื่อสารและความสัมพันธ์จากเดิมที่ Web 2.0 เคยสร้างขึ้นไว้เป็นพื้นฐานจากการสื่อสารแบบ Asynchronous communication ซึ่งเป็นการสื่อสารที่ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาตรงกัน/พร้อมกัน แต่ก็สมามารถสร้างความต่อเนื่องของการสื่อสารต่อกันและกันได้ เช่น การสนทนาตอบโต้กันในพื้นที่ Facebook ไปสู่การสื่อสารแบบ Synchronous communication ทั้งแบบ one-to-one, one-to-many, many-to-many โดยเป็นทั้งการสื่อสารและการสร้างความสัมพันธ์ อันเป็นการขยายพลังและความสามารถจากเครือข่าย เป็นความร่วมมือ และการแบ่งปัน/รวมทรัพยากรเข้าด้วย

 

TED Conferences, LLC ความก้าวหน้าของ Tech, media, and business model

          คำว่า TED ย่อมาจาก Technology, Entertainment, Design เป็นกิจการองค์กรไม่แสวงหากำไรของอเมริกัน-แคนาเดียน จัดเป็นองค์กรสื่อประเภทหนึ่งที่ให้บริการทั่วโลกด้วยการสื่อสารที่เป็นอิสระ ตามสโลแกนที่ว่า Ideas worth spreading เป็นกิจการที่ริเริ่มโดย Richard Saul Wurman และ Harry Mark ในปี ค.ศ. 1984 กรอบของการสื่อสารของเวทีสื่อสารผ่านเทคโนโลยี (Technology conference) นี้ จะเป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์และธุรกิจที่ประเด็นที่น่าสนใจทั่วโลก มีการสื่อสารมากกว่า 100 ภาษา

 

          ข้อมูล ณ ธันวาคม ค.ศ. 2020 TED Conference ได้บริการหัวข้อการนำเสนอบนเวที ความยาวไม่เกิน 18 นาทีต่อหัวข้อ เป็นบริการฟรีผ่านช่องทางระบบ Online – TED และ Onsite-TEDx events มากกว่า 3,500 เรื่อง มีผู้คนที่สามารถเข้าถึงข้อมูลเรื่องราวเหล่านี้มากกว่า 1 พันล้านคน (ตัวเลข ณ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2012) ขณะเดียวกัน TED Conference ก็สามารถบริการเชิงพาณิชย์ได้จากความสอดคล้องจากเนื้อหาที่มีการนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็น Corporate learning and talent development ผลของการประกอบการ ณ สิ้นปี ค.ศ. 2023 บริษัท มีรายได้ 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีการจ้างงานจำนวน 12,816 คน

 

ความก้าวหน้าของ Social media

          จากการศึกษาในบทก่อนหน้านี้ ทำให้ได้รับรู้ถึงประวัติศาสตร์ของ Facebook ทั้งหลักการและความตั้งใจที่จะสร้าง Free world ของ Mark Zuckerburg การสร้างความนิยมที่มีต่อการใช้งานพื้นที่สาธารณะแบบ Social media และการพัฒนารายได้ทางเศรษฐกิจธุรกิจทั้งโดยกลุ่มผู้สร้างพื้นที่ คือ Facebook Inc. ที่เริ่มจดทะเบียนบริษัทขึ้นในปี ค.ศ. 2004 (ริเริ่มกิจการแบบระดมทุนจากนักลงทุนที่มุ่งสร้างกิจการสำหรับอนาคต หรือ Venture capital และเปิดขายหุ้นระดมทุนในตลาด Nasdaq ในปี ค.ศ. 2012) ต่อมา เมื่อมีผู้ใช้งานอย่างกว้างขวาง และเครือข่ายเป็นสังคมที่น่าเชื่อถือ ผู้เปิดบัญชีใช้งานที่เป็นผู้สร้าง Contents สำหรับสื่อสารกับสมาชิก ก็สามารถพัฒนาใช้เป็นพื้นที่สำหรับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ พร้อม ๆ กับการจัดบริการแบบจ้าง Facebook Inc ให้ทำหน้าที่เป็นผู้วางแผนสำหรับการสื่อสารเพื่อการต่าง ๆ เหล่านั้น เพราะสามารถจะวิเคราะห์ข้อมูลจากทะเบียนที่มีการให้ข้อมูลไว้ เพศ อายุ การศึกษา ทัศนคติ และ Lifestyle ฯลฯ รวมทั้งการรับจ้างวิจัยพฤติกรรมทางการตลาดสำหรับผู้บริโภค จนกระทั่งล่าสุด เมื่อปี ค.ศ. 2019 ได้สร้างพื้นที่ให้บริการทางสังคมขึ้นใหม่ที่เรียกว่า Metaverse ซึ่งเป็นโลกเสมือนที่เคยอยู่ในเกมคอมพิวเตอร์ หรือ Avatars interact  ให้เข้ามาร่วมบริการในการสื่อสารและการค้นคว้าข้อมูล หรือกิจกรรมต่าง ๆ ของการติดต่อทางเศรษฐกิจและสังคม แต่ปรากฏว่า หลังจากที่มีการเปิดตัวไปกลับไม่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากนัก บริษัทได้ยุติการพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ไปแล้วหันไปให้ความสนใจต่อ AI

          การนำเอา ICTs และการรวบรวมข้อมูลที่เป็นพฤติกรรมทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ Lifestyle ความชอบ/ไม่ชอบ/ทัศนคติ การแสดงออก ฯลฯ ในชีวิตประจำวัน มาสร้างสรรค์เป็นปฏิสัมพันธ์ร่วมกับสังคม วัฒนธรรมร่วมกัน แล้ว Facebook Inc ก็จะพิจารณาแสวงหารายได้บนพื้นฐานของ Transactions ที่เกิดขึ้นใหม่เหล่านั้นอีกลำดับหนึ่ง เป็นการสร้างพื้นที่ -โลกของสมาชิกให้เกิดขึ้นเป็นจริงตามกรอบที่วางไว้ก่อน แล้วการจัดหาประโยชน์ทางธุรกิจย่อมสามารถสร้างสรรค์ขึ้นได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เช่น การโฆษณา การวิจัยพฤติกรรม และการจัดการความรู้ ฯลฯ

          ความสำคัญของ Social media และ Business model ในลักษณะข้างต้น ยังจะพบเห็นได้อีกจาก Twitter (พัฒนาโดย Jack Dorsey, Noah Glass, Biz Stone และ Evan Williams) ต่อมาเปลี่ยน Brand เป็น X ซึ่งเป็น Social Networking Service สำหรับการส่งข้อความสั้นและส่งต่อ หรือที่รู้จักกันว่า Retweet ที่ให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006 มีผู้ใช้งานพื้นที่สำหรับการสื่อสารแบบเป็นประจำ 48 ล้านบัญชี (ตัวเลขการสำรวจ ปี ค.ศ. 2020) ปัจจุบัน Elon Musk เป็นเจ้าของกิจการนี้ Instagram (พัฒนาโดย Kevin Systrom และ Mike Krieger) เป็นสื่อสังคมออนไลน์สำหรับการสื่อสารโดยรูปภาพและวีดีโอที่ให้บริการมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 2010 เช่นเดียวกับ YouTube (พัฒนาโดย Steve Chen, Chad Hurley และ Jawed Karim อดีตพนักงานที่เริ่มงานที่ PayPal) ที่ให้บริการเป็นพื้นที่การสื่อสารโดย Online video sharing มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 (เป็นกิจการในเครือข่ายของ Google) การสื่อสารแบบภาพ หรือภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงแบบวีดีโอของสื่อสังคมออนไลน์นี้ได้เป็นที่นิยมมากขึ้นในระยะหลัง จึงได้มีการพัฒนาพื้นที่สื่อรองรับความนิยมนี้มากขึ้นไปอีก เช่น Reels ซึ่งเป็นบริการ Short video sharing ความยาวไม่เกิน 90 วินาที อันเป็นการพัฒนาแพลตฟอร์มของ Facebook ที่เริ่มให้บริการในปี ค.ศ. 2021 เป็นบริการที่เกิดขึ้นหลังจากที่มีบริการลักษณะนี้เกิดขึ้นและได้รับความนิยมมาก่อน คือ TikTok ที่ให้บริการในปี ค.ศ. 2016 โดยที่ TikTok เป็นบริการแพลตฟอร์มที่ให้บริการ Short video sharing ความยาว 3 วินาที ไปจนถึง 60 วินาที และเป็นกิจการที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท ByteDance ผู้ประกอบการชาวจีน-สาธารณรัฐประชาชนจีน คือ Zhang Yiming

          Social media ข้างต้นล้วนแต่เป็นธุรกิจที่เริ่มขึ้นจากสหรัฐอเมริกา เริ่มบุกเบิกการใช้งานในอเมริกาก่อนแล้วขยายไปพื้นที่อื่นของโลก ซึ่งตรงกันข้ามกับ TikTok ที่เป็นบริการของชาวจีน มีกองทุนของรัฐสนับสนุนเริ่มต้นกิจการแบบ Start-up เปิดตัวในพื้นที่อื่นก่อนที่จะเข้าไปให้บริการในสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 2018 โดยมียุทธศาสตร์แนะนำตัวร่วมกับผู้มีชื่อเสียงทางสังคม เช่น ดาราตลก Jimmy Fallon, Tony Hawk และดารานักแสดง เช่น Jenifer Lopez, Will Smith และ Justin Bieber ข้อมูล ณ ปี ค.ศ. 2020 พบว่า มีผู้คนใช้บริการ TikTok มากกว่า 2,000 ล้านครั้ง เป็นพื้นที่ที่มีการเข้าใช้บริการมากกว่าพื้นที่ของ Google

 

Social media, Old media และ Physical-based

          โลกของ Social media or Web 2.0 คือ โลกของการครอบครองพื้นที่ข้อมูล และการสร้างความสามารถเข้าถึง Data ในมิติต่าง ๆ ประชากร เพื่อนำไปสู่การสร้างโอกาสใหม่ ๆ ทั้งด้านธุรกิจ การเมืองการปกครอง และการจัดระเบียบทางสังคม โดยการใช้ข้อมูลความเป็นส่วนตัว (เพศ อายุ อาชีพ กิจการ และกิจกรรม) พฤติกรรม (ความชอบ ความนิยม ความถี่ และทัศนคติ) ของประชาชน/ผู้บริโภค รวมไปถึงโอกาสการชี้นำและการนำเสนอเรื่องใหม่ ๆ ทางสังคม และวัฒนธรรมตามความสามารถและบริการที่มีอยู่ของ Social media or Web 2.0 ซึ่งทำให้พื้นที่ที่มีการอยู่ร่วมกันเป็นเครือข่ายทางสังคมนั้น ๆ ได้กลายเป็นที่ที่สำหรับการสร้างโอกาสใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่สำหรับการติดต่อซื้อขายสินค้า (เช่น E-commerce) และการวิเคราะห์ข้อมูล การทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค รวมทั้งการคาดการณ์อนาคตของตลาด (เช่น งานวิจัย งานที่ปรึกษา งานจัดการอบรม ฯลฯ) ไม่ใช่ เพียงแต่การสร้างรายได้จากการโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ (เป็นความสำคัญและความสามารถในการสร้างธุรกิจที่แตกต่างระหว่าง Mass media กับ Social media) แต่เป็นการใช้ประโยชน์จากข้อมูล และโอกาสที่มีการวิเคราะห์ และสร้างสรรค์ อันเป็นความลึกซึ้งของการผสมระหว่างส่วนที่เป็น Information-based or Virtual-based ที่จะนำไปใช้งานในพื้นที่ปฏิบัติการจริงของชีวิตทางเศรษฐกิจและสังคม (Physical-based)

          ความสำคัญของฐานข้อมูลที่เป็นพื้นฐานใหม่ของระบบข้อมูล เฉพาะ Facebook มีผู้ใช้งาน 3 พันล้านคน และ TikTok 1.22 พันล้านคน (45 ภาษา) ซี่งเป็นตัวแทนข้อมูลของประชากรโลกที่กำลังแสดงการปฏิบัติการต่าง ๆ ตามความสัมพันธ์ทางสังคม ทั้งที่เป็นสถานการณ์ปัจจุบัน และแนวโน้มที่จะเป็นไปได้ในอนาคต อันเป็นไปตามบทบาทของงานวิจัย และการจัดการความรู้ รวมทั้งการแสดงความเป็นทุนที่เหนือกว่าทางสังคม อีกมิติหนึ่งด้วย

          การทำงานของ Website ได้พัฒนาจากการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเพื่อการต่าง ๆ ไปสู่การสื่อสารแบบมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันและกันของ Social media ทั้งการสื่อสารข้อมูล ข้อความ ภาพ ภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียง นอกจากนั้น ยังมีการสร้างสรรค์ Contents ทั้งเรื่องเล่า และเรื่องราว รวมทั้งการสื่อสารที่เน้นการเข้าถึงอารมณ์และความสนุกสนานแบบ Reels or TikTok เป็นเครื่องมือสื่อสารขยายความ หรือตอกย้ำกิจกรรมใหม่ของ Event ทั้งงานบันเทิง และงานวิชาการ หรือรายการที่มีการสร้างสรรค์ขึ้นใหม่แบบ Ted Talk

 

สรุป

          จากที่กล่าวมาตามลำดับข้างต้น จะเห็นพัฒนาการของการพัฒนาพื้นที่ข้อมูลข่าวสาร และการพัฒนุรกิจในรูปแบบต่าง ๆ ตามระยะทางของวิวัฒนาการ กล่าวคือ ระยะเริ่มแรก การทำงานของโลกข้อมูลข่าวสารมีลักษณะการทำงานเพื่อบริการสาธารณะ (Public goods) เพื่อการสื่อสารประชาสัมพันธ์ รูปแบบของธุรกิจจะเป็นไปตามการรูปแบบของการสนับสนุนช่วยเหลือ และการระดมทุนจากกลุ่มนักลงทุน Venture capital ระยะที่สอง เมื่อพื้นที่ดังกล่าวมีคนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ก็เป็นที่ที่มีความเหมาะสมสำหรับการแนะนำผลิตภัณฑ์และสินค้าเพื่อการพาณิชย์ เช่น Amazon, eBay, Alibaba หรือที่รู้จักว่าเป็นยุคของ E-commerce อันเป็นพื้นที่ของการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่เข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม (งานบริการข้อมูลข่าวสาร เช่น การศึกษา การให้คำปรึกษา และการแพทย์ในระบบออนไลน์ ก็เป็นไปตามวิวัฒนาการนี้) และระยะที่สาม เป็นโอกาสใหม่ของการวิเคราะห์ข้อมูล และการคาดการณ์สถานการณ์เพื่อประกอบการวางแผนงานทางด้านการตลาด และธุรกิจ จากการประมวลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) อันเป็น Infrastructure ใหม่ของระบบเศรษฐกิจ สังคม และการบริหารจัดการ ที่นำไปใช้ประโยขน์ต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ การกำกับติดตาม รวมทั้งการริเริ่มความเป็นไปได้ของธุรกิจใหม่ ๆ หรือเป็นไปตามมุมมองของงานนวัตกรรมที่ว่า นำไปสู่โอกาสของการสร้างส่วนผสมขึ้นใหม่เพื่อการผลิต บริการ และสร้างตัวแบบ

 

อ้างอิง

สุนทร คุณชัยมัง. ตัวแบบนวัตกรรมธุรกิจ = Innovative business model. — ปทุมธานี : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรังสิต, 2567. 165 หน้า.

…………….……

เรียบเรียงโดย ดร.สุนทร คุณชัยมัง ผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรมและสร้างสรรค์ความรู้ (Innovation and Creativity in Knowledge Academy : ICIK) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

Categories: