นวัตกรรม นวัตกรรมธุรกิจ และการจัดกลุ่มทฤษฎี
ความเข้าใจเบื้องต้น
เทคโนโลยี (Technology) หมายถึง การปรับใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติเพื่อนำไปสู่ชีวิตที่ดีของมนุษย์ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบรรลุต่อวัตถุประสงค์ (Object) ของการดำเนินงาน และเป็นวิถีกระบวนการของการจัดการ (Means of manipulating) ดังนั้น เทคโนโลยี จึงไม่ใช่เรื่องของวัสดุ สิ่งของ เครื่องมือ และเครื่องจักรที่รองรับต่อความก้าวหน้าและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนเพียงมิติเดียว แต่ยังรวมถึงระเบียบวิธีการ และความก้าวหน้าของการปฏิบัติการความรู้ทางวิทยาศาสตร์ การประยุกต์ใช้งาน และการมีปฏิสัมพันธ์ต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมไปพร้อมกันด้วย
เครื่องมือ เทคโนโลยี และการจัดการความรู้ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ระหว่างการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีกับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ จะทำให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการสนองตอบต่อการใช้งานใหม่ หรือผลผลิตมากขึ้น ประสิทธิภาพดีขึ้น การเปรียบเทียบผลผลิตที่มากกว่าเดิมนี้ มีการคิดเปรียบเทียบกับความสามารถการทำงานของเครื่องมือ และเทคโนโลยีดังกล่าวกับการทำงานของม้า (เป็นแรงม้า – ซึ่งเป็นหน่วยสำหรับการชี้วัดกำลังความสามารถของเครื่องจักร เครื่องมือ และเทคโนโลยี ในทัศนะของ Joseph Schumpeter เขาเห็นว่า เทคโนโลยีนี้ คือ ส่วนผสมใหม่ (New combination) ของปัจจัยการผลิต/ระบบการผลิตในระบบเศรษฐกิจ (Schumpeter, 1943)
คำ และนิยาม
คำว่า “นวัตกรรม” (Innovation) มาจากคำในภาษาลาติน ว่า “Innovare” ซึ่งมีความเช่นเดียวกับ revolution และ change (สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ, 2550 ใน สมนึก เอื้อจิระพงษ์พันธ์ และคณะ, 2553) ประวัติศาสตร์ของคำ ๆ นี้ Benoit Godin (2008) อธิบายว่า “เป็นจุดตัดที่สร้างความแตกต่างไปจากคำ 2 คำ ที่มีการใช้งานก่อนหน้านี้ คือ (1) การเลียนแบบเอาอย่างตามกันอย่างแพร่หลาย (imitation) กับคำว่าสิ่งประดิษฐ์ (invention)” และมีความเชื่อมโยงที่ต่อเนื่องกันมากับปรัชญาของ Plato ที่ว่าด้วยการอธิบายความจริง (an interpretation of reality) ของสังคมที่มีการปฏิบัติการผ่านการถกเถียง การเลียนแบบ และการทำตาม ๆ กัน (Taylor, 2017) นวัตกรรม เป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งของใหม่ที่ประดิษฐ์ขึ้น พร้อมกับมีการสร้างปฏิกิริยาความสัมพันธ์แบบใหม่กับผู้คนในสังคมประกอบรวมเข้าด้วยกัน นวัตกรรม จึงเป็นเรื่องที่มีการให้นิยามและความหมายไว้อย่างหลากหลาย เช่น
Homer Barnett (1953: 181) อธิบายว่า “นวัตกรรม คือ กระบวนการของการจัดการเรียบเรียงองค์ความรู้แบบใหม่ และสร้างส่วนประกอบขึ้นใหม่ ที่เชื่อมโยง หรือผสมสิ่งต่าง ๆ มากกว่า 2 สิ่งเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างเป็นแนวทางใหม่ (new ways) (Barnett, 1953: 181)
Charles Carter and Bruce William (1957: 15) ชี้ว่า “นวัตกรรม คือ การนำเอาแนวคิดและสิ่งประดิษฐ์ไปสู่การใช้งานจริงในทางปฏิบัติ”
Jack Morton (1971: 19) วิศวกรของ Bell Laboratories ระบุว่า “นวัตกรรม เป็นกระบวนการทำงานโดยรวมของส่วนต่าง ๆ ที่มีอยู่และปฏิบัติการร่วมกัน (a total process)“ Morton ให้ความสำคัญต่อการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ใหม่นั้น ไม่เป็นแต่เพียงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เท่านั้น ยังเป็นการเชื่อมโยงกระบวนการต่าง ๆ ของการสร้างสรรค์เข้าด้วยกัน รวมทรัพยากรและความสามารถที่มีอยู่เข้าด้วยกัน มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการตั้งแต่งานวิจัยค้นคว้าไปจนถึงการนำเอาผลิตภัณฑ์นั้นออกสู่ตลาด และเป็นการทำงานที่สนองตอบต่อทั้งการมุ่งต่อผลความสำเร็จของงานวิจัยไปจนถึงการตอบสนองต่อสังคม (Morton, 1971)
Chris Freeman นักเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษ เจ้าของผลงาน The Economics of Industrial Innovation (ผลงานร่วมกับ Luc Soete) ที่เผยแพร่เมื่อปี ค.ศ. 1974) เขาเห็นว่า นวัตกรรม เป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับกระบวนการทางเศรษฐศาสตร์ และวิพากษ์ต่อองค์ประกอบที่เป็นอุปสรรคของการแข่งขันของการดำเนินธุรกิจของรัฐ-ชาติ ที่นักเศรษฐศาสตร์ทั่วไปมองข้ามไป (Freeman & Soete, 1974: 17)
Peter Drucker (1993) ชี้ว่า นวัตกรรม เป็นเครื่องมือเฉพาะเจาะจงของผู้ประกอบการที่เป็นวิถีทางที่จะทำให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลง อันเป็นโอกาสที่สร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ หรือบริการที่แตกต่างไปจากเดิม เป็นหลักของความสามารถที่ยืนยันในหลักการดำรงอยู่ของธุรกิจ
Geoff Mulgan and David Albury (2003) กำหนดคำนิยามสำหรับการศึกษาในภาคบริการสาธารณะ ว่า “เป็นแนวคิดใหม่สำหรับการพิจารณาดำเนินการ สร้างสรรค์ และแปรผลสู่การปฏิบัติของกระบวนการใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ บริการใหม่ และระเบียบวิธีการซึ่งนำพาประโยชน์ส่งมอบให้กับผู้รับบริการ ให้สำเร็จผลตามการปรับปรุงประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ประสิทธิผล หรือคุณภาพของการทำงาน”
OECD (2005) โดย OSLO Manual กำหนดนิยาม นวัตกรรม หมายถึง “การแปรผลสู่การปฏิบัติจริงของสิ่งใหม่ หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้รับปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญมาแล้ว (ทั้งสินค้า และบริการ) หรือกระบวนการ ระเบียบวิธีทางการตลาดแบบใหม่ หรือระเบียบวิธีการจัดการองค์กรแบบใหม่ในปฏิบัติการของธุรกิจ การทำงาน และการขยายความสัมพันธ์ โดยพื้นที่ของการสร้างสรรค์นวัตกรรม จะเกิดขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของผลิตภัณฑ์ กระบวนการ การตลาด และการจัดการองค์กร ทั้งในเรื่องของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การบริหาร การเงิน และการค้า รวมทั้งการวิจัยและการพัฒนา”
David O’Sullivan & Lawrence Dooley (2009) นิยาม นวัตกรรม เป็น กระบวนการที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์ กระบวนการ และบริการ ทั้งขนาดใหญ่และเล็ก ทั้งแบบเข้มข้นฉับพลันและค่อยเป็นค่อยไป อันเป็นผลของการนำเอาสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาร่วมจัดการเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับคู่ค้า พร้อม ๆ กับการกระจายความรู้ที่เกิดขึ้นไปยังส่วนต่าง ๆ ขององค์กร ต่อมาทั้งสองได้พัฒนากรอบนิยามนี้สำหรับ Applying innovation ว่า เป็นการประยุกต์เครื่องมือและเทคนิคของการปฏิบัติ เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ กระบวนการ และบริการ ทั้งขนาดใหญ่และเล็ก ทั้งแบบเข้มข้นฉับพลันและค่อยเป็นค่อยไป อันเป็นผลของการนำเอาสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาร่วมจัดการเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับคู่ค้า พร้อม ๆ กับการกระจายความรู้ที่เกิดขึ้นไปยังส่วนต่าง ๆ ขององค์กร
EU Parliament (2016) นิยาม นวัตกรรม หมายถึง การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ บริการ การตลาด และวิธีการจัดการองค์กรให้นำไปสู่การสร้างผลลัพธ์และประสิทธิภาพทางการเงิน และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม
หน่วยงานยุทธศาสตร์ด้านธุรกิจ พลังงาน และอุตสาหกรรมของอังกฤษ (2021) นิยาม นวัตกรรม ว่า “การสร้างสรรค์และการประยุกต์ใช้ความรู้ใหม่ เพื่อปรับปรุงโลกให้ดีขึ้นกว่าเดิม เป็นกระบวนการับเคลื่อนความก้าวหน้าของมนุษยชาติ
บุญเกื้อ ควรหาราช (2542) (1999) นิยามนวัตกรรม ว่า “การนำเอาสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งอยู่ในรูปของความคิดหรือการกระทำ รวมทั้งสิ่งประดิษฐ์ ..มาใช้..เพื่อมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีอยู่เดิม …ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ (2547) (2004) ให้นิยามคำว่านวัตกรรม คือ การนำเอาแนวคิดใหม่ หรือการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่แล้วมาใช้ในรูปแบบใหม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ …. ความหมายในเชิงแคบ คือ ผลผลิตของความสำเร็จทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับพลวัตของกิจกรรมทางสังคม ความหมายในเชิงกว้าง หมายถึง แนวคิด การปฏิบัติ หรือสิ่งต่าง ๆ ที่ใหม่ต่อตัวปัจเจก หรือหน่วยที่รับเอาสิ่งเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ ..ไปสร้างความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ การสร้างตลาดขึ้นใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ กระบวนการและการบริการใหม่ การทำในสิ่งที่ต่างไปจากคนอื่น ..เป็นโอกาส และนำไปสู่แนวคิดใหม่ที่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง และสังคม…” (สมนึก เอื้อจิระพงษ์พันธ์ และคณะ, 2553)
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (2549) (2006) นิยามว่า “สิ่งใหม่ที่เกิดจากการใช้ความรู้ และความคิดสร้างสรรค์ ที่มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม”
สมนึก จิระพงษ์พันธ์ และคณะ (2553) (2010) ได้ศึกษาการนิยามของคำว่านวัตกรรมทั้งในประเทศไทยและสากลทั้งในวงวิชาการและหน่วยงานภาคปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง และเป็นผลงานในระหว่างปี ค.ศ. 1994 – 2008 แล้วสรุปว่า “นวัตกรรม คือ สิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นจากการใช้ความรู้ ทักษะประสบการณ์ และความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาขึ้น ….เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ บริการใหม่ และกระบวนการใหม่ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจและสังคม”
สมบัติ นามบุรี (2562) (2019) นวัตกรรม คือ ความคิดและกระบวนการใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน หรือพัฒนาดัดแปลงจากของเดิมให้ดีขึ้น และเมื่อนำมาใช้สามารถทำให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยสรุป นวัตกรรม คือ ความคิดใหม่ สิ่งใหม่ ซึ่งเรียกโดยรวมว่า ความใหม่ (newness) ที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเพื่อสนองตอบต่อความต้องการหรือรองรับต่อการแก้ปัญหาให้มีประสิทธิภาพ และ/หรือคุณภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม โดยความใหม่เหล่านั้น ได้เกิดขึ้น 4 แบบด้วยกัน คือ (1) ผลิตภัณฑ์ (2) บริการ (3) กระบวนการ ซึ่งหมายความรวมทั้งกระบวนการดำเนินงานแบบใหม่ที่เกิดขึ้นในองค์กร มีการปรับปรุงการทำงานไปตามองคาพยพต่าง ๆ (4) เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สร้างผลลัพธ์
กรณีศึกษา-การสร้างสรรค์นวัตกรรมธุรกิจ
(1) นวัตกรรม-เทคโนโลยี: หุ่นยนต์ดินสอ
การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่โดยอาศัยความสามารถและความทันสมัยของเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสาร (Information and Communication Technologies: ICTs) และการประมวลข้อมูลเพื่อการบริหารจัดการหรือให้บริการ (Data management) เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของกรณีนี้ เช่น ผลงานการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เรียกว่า “หุ่นยนต์ดินสอ” ของ บริษัท ซีที เอเชีย โรโบติกส์ จำกัด โดยคุณเฉลิมพล ปุณโณทก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการช่วยงานดูแลผู้ป่วยติดเตียง หรือการดูแลสุขภาพผู้สูงวัย ที่เริ่มให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 โดยหุ่นยนต์นี้จะติดตั้งโปรแกรมข้อมูลบริการสำหรับดูแลสุขภาพที่จะเตือนให้ผู้รับบริการทานยาหรือทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งตามเวลาที่แพทย์หรือพยาบาลสั่งหรือให้คำแนะนำไว้ นอกจากนี้ หุ่นยนต์นี้ยังทำหน้าที่เป็นวิทยุ สำหรับการบริการเพลง สวดมนต์ หรือข้อมูลสารคดีความรู้ที่เป็นที่ต้องการของผู้ใช้บริการ
หุ่นยนต์นี้ จะเชื่อมโยงข้อมูลบริการผ่านระบบอินเตอร์เน็ตจากบ้านผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่ร่วมโครงการดูแลสุขภาพของผู้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็น รพ.สต.ในพื้นที่ชนบท หรือโรงพยาบาลในเมืองทั้งของรัฐและเอกชน (หรือลูกหลานญาติพี่น้อง) ที่คอยติดตามการให้บริการของหุ่นยนต์และการใช้งานของผู้ใช้บริการ (คนไข้)) เป็นประจำวันและทุกระยะ หากมีข้อมูลที่ผิดสังเกต เช่น ไม่ทานยาตามเวลาที่กำหนด ก็จะมีการติดต่อ-ติดตาม รวมทั้งแก้ปัญหาให้ทันต่อสถานการณ์ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น กล่าวได้ว่า ผลิตภัณฑ์และบริการของหุ่นยนต์นี้ ถือได้ว่า เป็น Newness ที่เกิดขึ้นใหม่ ที่เป็น AI-Artificial Intelligence เพื่อวงการแพทย์ (ผลงานของนักนวัตกรชาวไทย) และเป็นประโยชน์ต่อทั้งการบริการของระบบพยาบาล-สาธารณสุข และผู้ใช้บริการ
(2) ประสบการณ์จากการแก้ปัญหาการตลาดของ P&G
ประสบการณ์จากการแก้ปัญหาทางการตลาดที่เผชิญกับการแข่งขันในตลาดของ P&G ยักษ์ใหญ่ของโลกในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัทที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1837 มีรายได้จากยอดขาย 84 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี มีการจ้างงาน 108,000 คน แต่สถานการณ์ทางการตลาดในช่วงต้นทศวรรษ 1990s P&G ประสบปัญหายอดขายตกต่ำ และมีผลต่อราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ อันเป็นผลกระทบมาจากการการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความภักดีต่อแบรนด์ (Brand loyalty) ลดลง พฤติกรรมนี้ไม่ได้เกิดจากความนิยมที่ลดลงเฉพาะแบรนด์ของ P&G แต่เป็นกระแสที่มีต่อ Brands ชั้นนำของโลก ที่ต่างให้ความนิยมต่อแบรนด์ของผู้ท้าชิง และแบรนด์ใหม่/ผลิตภัณฑ์ใหม่จาก Small business และผลิตภัณฑ์ทั้งจากประเทศพัฒนาใหม่ และประเทศกำลังพัฒนาประเด็นที่ผู้บริหาร P&G ตั้งข้อสงสัย ก็คือ ทำไมสำนักวิจัยของ P&G ที่มีสาขาทั่วโลกมากถึงเป็น …แห่ง จึงพัฒนาและ Launch ผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาดได้น้อยกว่า SMEs & new competitors ทั้ง ๆ ที่มีผู้เชี่ยวชาญทั้งการวิจัย ออกแบบผลิตภัณฑ์ และนักการตลาดที่มีประสบการณ์มากกว่า ทั้งนี้ก็เพราะยอดขายของ P&G ที่ลดลง หมายความว่า P&G กำลังพ่ายแพ้ในสงครามการตลาดกับคู่แข่งโนเนม (รวมทั้งสูญเสียพื้นที่ในชั้นวางสินค้า (Shelf) ในร้าน/ในห้างตามไปด้วย)
ปัญหาที่เกิดขึ้น P&G ประชุมระดมความคิดเห็นจากทั้ง พนักงานทุกสายงานทั้งวิจัย ผลิต ตลาด Suppliers, Dealers และผู้บริหารที่มีประสบการณ์และเกษียณอายุไปแล้ว ได้ข้อสรุปว่า การสูญเสียพื้นที่ให้กับ SMEs & new competitors เป็นผลมาจากความล่าช้าของระบบงานของบริษัท ที่มีขีดจำกัดในการเรียงลำดับและคัดเลือกแนวคิดริเริ่ม ผลงานริเริ่ม ไปสร้างสรรค์ และทดสอบ Prototype ก่อนที่จะตัดสินใจเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือเป็น Pattern of work ที่เป็น Single tracts หรือที่เรียกว่า Closed Innovation Model ระบบดังกล่าว นอกจากจะมีข้อติดขัดจากการเรียงลำดับตามขั้นตอนกระบวนการแล้ว บางครั้งยังสูญเสียโอกาสพัฒนาผลิตภัณฑ์ในลำดับรองลงไป ที่ต้องตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ใหม่มาพัฒนาได้เพียงผลิตภัณฑ์เดียว ผลจากข้อค้นพบดังกล่าว จึงทำให้ P&G ตัดสินใจปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานวิจัยเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่เรียกว่า Open Innovation โดยมีการประสานความร่วมมือกับเครือข่ายงานวิจัย พัฒนา ทดสอบ และต้นแบบจากหน่วยงานอื่น-ภายนอกบริษัท เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและนำไปสู่การตัดสินใจ/ซื้อขายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยงานบางรานการ P&G จะนำเอาไปพัฒนาต่อในขั้นตอนต่อไปกับหน่วยวิจัยและพัฒนาภายนอก และนำเข้าสู่ระบบบตลาด (ทั้งตามช่องทางตลาดแบบทางเลือก หรือแบบ Fighting brands พร้อมกันนั้น ก็จะมีการนำเอางานวิจัยและพัฒนาจากหน่วยงานภายนอก เข้ามาดำเนินงานต่อในระบบงานวิจัยและพัฒนาของบริษัท และเข้าสู่ระบบตลาดตามแผนงานของบริษัท
ผลการดำเนินงานพัฒนารูปแบบการทำงานของหน่วยงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบ Open innovation ของ P&G ทำให้ P&G สามารถแก้ปัญหาการนำผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ระบบตลาดที่หลากหลาย และมีปริมาณและความถี่ที่เหมาะสมต่อการพัฒนาพื้นที่ทางการตลาด และสร้างยอดขายเพิ่มมากขึ้น นำไปสู่ความสำเร็จในการแก้ปัญหาภาพลักษณ์และราคาหลักทรัพย์ได้ในช่วงเวลาต่อมา
Henry Chesbrough ได้ศึกษากรณีของ P&G ข้างต้นแล้วนำเสนอเป็น Open Innovation Theory ในปี ค.ศ. 2003 โดยผลงานหนังสือชื่อ Open Innovation: The New Imperative for Creating and Profiting from Technology ที่อธิบายการเปลี่ยนรูปแบบและกระบวนการจัดการของหน่วยวิจัยและพัฒนา ที่เปลี่ยนจากการดำเนินงานทั้งหมด/เดินไปตามลำดับด้วยหน่วยงานของบริษัทเอง ไปเป็นการบริหารแบบประสานความร่วมมือ และจัดทำหลักเกณฑ์ในการพิจารณาตัดสินใจสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการจัดการทางการตลาด
(3) นวัตกรรมจากการพัฒนาธุรกิจของ TATA และ Daimler
เรื่องการพัฒนารถยนต์ เครื่องยนต์ และเครื่องจักรกลทางการเกษตรในอินเดีย โดยทั่วไปแล้ว มักจะพบเห็นว่ามีผลงานของการดัดแปลง หรือปรับเสริมเติมแต่งเพื่อให้มีการใช้งานในเรื่องต่าง ๆ อยู่เป็นการทั่วไป เช่น การสร้างพ่วงข้างรถมอเตอร์ไซค์สำหรับการเป็นพาหนะ และการขนส่งผลผลิตทางการเกษตร การต่อเติมตัวถังเพื่อบรรทุกสิ่งของเข้ากับหัวลากของรถไถนาเพื่อใช้งานแทนรถบรรทุกขนาดเล็กในพื้นที่ชนบท ฯลฯ การพัฒนาที่เป็นไปด้วยความสามารถของฝีมือ “ช่างชาวบ้าน” “ช่างชุมชน” ที่มีทักษะจาการทำงานช่างเป็นหลักนั้น ด้านหนึ่ง ได้รับการพัฒนาส่งต่อความรู้กันมาเป็นระยะๆ หลายสิบปี อีกด้านหนึ่ง มีการยอมรับในผลิตภัณฑ์ที่มีการปรับเสริมเติมแต่งดังกล่าวเป็นที่แพร่หลายในวงกว้าง จนทำให้ TATA ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของอินเดีย เล็งเห็นถึงผลพวงจากการพัฒนาเทคโนโลยี และเล็งเห็นในการต่อยอดเพื่อยกระดับให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตลาด อันเป็นการพัฒนาต่อยอดงานวิจัยและต้นแบบที่มีอยู่แล้วจากช่างชาวบ้าน/ช่างชุมชนให้เป็น “นวัตกรรมชุมชน” (Community innovation) แล้วพัฒนาแผนงานตลาดอย่างจริงจัง ปรากฎว่า ประสบความสำเร็จในการตลาดเป็นอย่างมาก
ความสำเร็จของ TATA ทำให้ Daimler ให้ความสนใจต่อการลงทุนในเรื่องดังกล่าว และขอร่วมลงทุนกับ TATA เพื่อนำรถยนต์ รถบรรทุก เครื่องจักรกลทางการเกษตรที่พัฒนาจากการดัดแปลงไปบุกตลาดในพื้นที่ยุโรปตะวันออก
วิถีทางของการพัฒนานวัตกรรมชุมชน อันเป็นผลงานที่มีจุดเริ่มต้นจากผลงานแบบช่างชาวบ้านช่างชุมชนข้างต้น เป็นวิถีที่เคลื่อนตัวไปจากอินเดียไปสู่ยุโรป ต่างไปจากการเคลื่อนตัวของงานนวัตกรรมโดยทั่วไป ที่มักจะเกิดขึ้นในพื้นที่ยุโรปแล้วขยายไปยังพื้นที่อื่น จากประเทศที่พัฒนาแล้วไปยังประเทศกำลังพัฒนา การนำเสนอผลการพัฒนานวัตกรรมนี้ Navi Radjou and Jaideep Prabhu เรียกว่า Frugal innovation และนำเสนอเป็นผลงานหนังสือในปี ค.ศ. 2015 ที่ชื่อว่า Frugal Innovation: How to Do More With Less
(4) การพัฒนาผลิตภาพ Supplier ของ BHP
โครงการ World-class suppliers development ของ BHP บริษัทที่ดำเนินธุรกิจเหมืองแร่ในชิลี ประเทศที่มีเศรษฐกิจจากการทรัพยากรเหมืองแร่มากถึง 13% ของ GDP (และมีอัตราการเติบโตปีละ 10%) และมีบริษัทชั้นนำจากทั้ง MNCs และรัฐวิสาหกิจของชิลี เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ โดยที่ BHP นั้น เป็นบริษัทของออสเตรเลียที่เข้าไปลงทุนในชิลี และมีการดำเนินร่วมกับผู้ประกอบรายย่อย หรือ SMEs ในท้องถิ่น-ชิลี จำนวนหนึ่ง เป็น Suppliers หรือเป็นห่วงโซ่ธุรกิจสนับสนุนที่สำคัญ
ผลการพัฒนางานผลิตภาพของการผลิตจากการอบรมและเพิ่มพูนทักษะแรงงาน ในปี ค.ศ. 2012 BHP ลงทุนพัฒนาแรงงานไป 50 ล้านเหรียญสหรัฐ สามารถพัฒนา Suppliers ที่สามารถรับงานแบบ World-class suppliers ได้จำนวน 36 ราย ทำให้ BHP ซึ่งเป็นพันธมิตรคู่ค้า ได้งานที่มีคุณภาพมากขึ้นจากเดิม (ลดต้นทุนจากการแก้ไขปรับปรุงงานลงไป 121 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในขณะเดียวกัน BHP และ Suppliers เหล่านี้ ก็ได้รับงานเหมืองแร่เพิ่มขึ้นจากการสัญญาว่าจ้างไปรับงานต่างประเทศเพิ่มขึ้น 400 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นรายได้จากต่างประเทศที่นำเข้าประเทศจากธุรกิจพื้นฐาน-เหมืองแร่ เป็นรายได้ใหม่ที่มีความสำคัญต่อแรงงานและครอบครัวแรงงานของ BHP และ Suppliers มากกว่า 5,000 คน (อย่างน้อยจะมีความเกี่ยวข้องกับการสร้างรายได้ให้กับครอบครัวคนงาน 5,000 ครอบครัว ตามไปด้วย)
World-class suppliers development ของ BHP เป็นโครงการที่เริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 2013 เพื่อพัฒนาทักษะความสามารถด้านฝีมือช่างในด้านต่าง ๆ เพื่อชักชวนให้ Suppliers ตระหนักในสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกที่จะขยายตัวในปี ค.ศ. 2020 ที่คาดว่า โลกจะมีความต้องการ Suppliers ในระดับ World-classจำนวน 250 ราย ที่มีลักษณะเป็นนวัตกรที่สร้างสรรค์งานเพื่ออนาคต มีความสามารถปรับปรุงการจัดการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ และมีความรู้ความสามารถพื้นฐานของการใช้งาน ใช้เครื่องมือต่าง ๆ ด้วยความเชี่ยวชาญ – ไม่จำเป็นต้องจัดอบรมการใช้เครื่องมือเบื้องต้นที่จำเป็นต่อการทำงาน และจำเป็นต้องกำกับการทำงานในแต่ละขั้นตอนอย่างเคร่งครัดเช่นที่เป็นอยู่ปัจจุบันที่มี Suppliers อยู่มากถึง 4,000 กว่าราย ด้วยเหตุดังกล่าว World-class suppliers development จึงมีความจำเป็นที่ต้องพัฒนางานด้านผลิตภาพ (Productivity)ให้แตกต่างไปจาก Suppliers ทั่วไป
การพัฒนาโครงการ Green Solution ของ CPAC
CPAC เป็นหนึ่งในกิจการสำคัญของ SCG Group เป็นธุรกิจที่บริการปูนซีเมนต์ และวัสดุการก่อสร้างให้กับธุรกิจก่อสร้าง CPAC ได้พัฒนางานตามกรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่โดยทั่วไปมักจะเห็นจากการสะท้อนผลงานจากการดำเนินงานแบบช่วยเหลือสังคมมากกว่าที่จะเป็นการพัฒนาความยั่งยืนไปตามวงจรและห่วงซุ่รกิจทั้งการจัดการวัตถุดิบ การผลิต คุณค่าของผลิตภัณฑ์ และการดูแลจัดการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เช่น CPAC BIM ที่นำเอาเทคโนโลยีการจัดการข้อมูลมารองรับการให้บริการธุรกิจแบบดิจิทัลและระบบแพลตฟอร์มที่ผู้เกี่ยวข้องในงานก่อสร้าง สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานของตนพร้อมกับรายงานความก้าวหน้าของงาน ทำให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถจัดสรรเวลา จัดเตรียมวัตถุดิบ เครื่องจักรกล เครื่องมือ และแรงงานเข้ารับช่วงต่อตามกรอบของวันเวลาของแผนงาน อันเป็นการบริหารจัดการงานผลิตภาพใหม่สำหรับการจัดการธุรกิจก่อสร้าง และลดปัญหาของการกำกับงาน Suppliers ไปพร้อม ๆ กัน
CPAC Green Solution เป็นอีกโครงการหนึ่งที่ CPAC นำเอาเรื่องของการจัดการความยั่งยืนมาร่วมบริหารจัดการธุรกิจให้เรื่องของความยั่งยืนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องไปตามวงจรและห่วงโซ่ของธุรกิจ โดยที่โครงการนี้ CPAC มุ่งบริการต่อการปรับเปลี่ยนโรงเลี้ยงหมูที่มีมากถึง 191,588 ราย กระจายอยู่ทุกจังงหวัดของประเทศ (มีประชากรหมู 13-14 ล้านตัว) ให้เป็นระบบปิด เป็นบริการตั้งแต่การออกแบบโรงงาน ก่อสร้าง ระบบน้ำเสียและการจัดการของเสีย กลิ่น และสิ่งแวดล้อมโดยรวม อันเป็นโครงการที่รองรับต่อการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการรบกวนชุมชน (รวมทั้งความอ่อนแอของกลไกของรัฐในระดับชุมชนและท้องถิ่น)
จากตัวอย่างข้างต้น หุ่นยนต์ดินสอ เป็นผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อบริการในระบบบริการสุขภาพและสาธารณสุข รวมทั้งช่วยยกระดับบริการของ รพ.สต.และงานของ อสม.ในพื้นที่ชนบท รวมทั้งเพิ่มความสัมพันธ์ในระหว่างครอบครัว การปรับเปลี่ยนรูปแบบและกระบวนการงานวิจัยผลินตภัณฑ์และนำเอาผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ระบบตลาดของ P&G เป็นนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจาก New process or new pattern of work รวมทั้งการปรับปรุงขอบข่ายของการบริหารจัดการจากการทำงานที่มุ่งจัดการประสิทธิของสายงาน/ฝ่ายงานต่าง ๆ ในบริษัทไปเป็นการทำงานความร่วมมือกับบริษัทหรือหน่วยงานภายนอก ที่ต้องการให้ได้มาซึ่งประสิทธิผลและการบรรลุเป้าหมาย สำหรับงานแบบ Frugal innovation ของ TATA & Daimler นั้น แท้ที่จริง ก็คือ งานที่ต่อยอดจากการวิจัย ทดสอบ/ทดลองการใช้งานตามขั้นตอนของการวิจัยผลิตภัณฑ์โดยทั่วไป เพียงแต่กรณีนี้เป็นการปฏิบัติการวิจัยในภาคปฏิบัติการในชีวิตจริง บทบาทของ TATA & Daimler ในเรื่องนี้ เสมือนหนึ่งเป็นการซื้อผลงานวิจัยจาก SMEs เข้าไปพัฒนาต่อในวงจร-ขั้นตอนของตนเอง และพัฒนาให้เป็นผลิตภัณฑ์และแบรนด์ตนเอง กรณีของ BHP และ CPAC เป็นตัวอย่างของความใหม่ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาผลิตภาพใหม่ (New productivity)
กล่าวโดยสรุป นวัตกรรมธุรกิจ สามารถพัฒนาหรือสร้างสรรค์ความใหม่ขั้นได้จากผลิตภัณฑ์ บริการ กระบวนการ (รวมทั้งแบบแผน รูปแบบ รูปร่างของกระบวนการหรือโครงสร้างการทำงาน) และการบริหารจัดการผลิตภาพ (ซึ่งเป็นกระบวนการเชิงกลไกทำงาน-ที่ติดหรือซ่อนอยู่ในระบบงาน หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Within) ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง
___________________________________________________________
อ้างอิง
สุนทร คุณชัยมัง.
ตัวแบบนวัตกรรมธุรกิจ = Innovative business model. — ปทุมธานี : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรังสิต, 2567. 165 หน้า.
…………….……
เรียบเรียงโดย
ดร.สุนทร คุณชัยมัง
ผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรมและสร้างสรรค์ความรู้
(Innovation and Creativity in Knowledge Academy : ICIK)
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์