นวัตกรรมธุรกิจในธุรกิจดิจิทัลของไทย
กิจการธุรกิจในโลกดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในโลกปัจจุบัน แต่กรณีตัวอย่างที่เป็นความสำเร็จของผู้ประกอบการไทย ไม่มีมากนัก หากสำรวจธุรกิจดิจิทัลในช่วง 2000-2020 มีธุรกิจดิจิทัลที่ให้มีบริการในประเทศไทย เช่น Travaeloka เปิดบริการในปี 2012 เป็นธุรกิจของอินโดนีเซีย Lalamove เปิดบริการในปี 1013 เป็นธุรกิจของฮ่องกง Lazada และ Shopee ที่ให้บริการในปี 2014 และ 2015 สองกิจการนี้ ก็เป็นธุรกิจของสิงคโปร์ Kerry ที่ให้บริการในปี 2016 เป็นกิจการของฮ่องกง และล่าสุด Ajaib กิจการฟินเทค-ดิจิทัล ก็เป็นธุรกิจของอินโดนีเซีย ในห้วงเวลานี้ กิจการของไทย ก็มี Flash จัดตั้งขึ้นในปี 2017 Bitkub จัดตั้งในปี 2018 และ Robinhood จัดตั้งในปี 2019 ซึ่งล้วนแต่เป็นช่วงก่อนสิ้นทศวรรษ 2010s
ธุรกิจดิจิทัลของไทยมีเพียง 3 บริษัทที่เป็นที่รู้จักและให้บริการในระดับประเทศ และเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ ต่างไปจากอินโดนีเซีย และสิงคโปร์ซึ่งเป็นประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน ที่มีกิจการบริการประเภทนี้ในพื้นที่ธุรกิจของโลก ในไทยมีกิจการที่ริเริ่มแบบขนาดเล็กให้บริการที่จำกัดพื้นที่เฉพาะ Local ไม่ใช่รองรับการออกไปสู่โลกกว้าง เช่น คลาวด์คอมเมิร์ซ ซีคสเตอร์ วงใน และ EATLAB
บริษัท คลาวด์คอมเมิร์ซ จำกัด เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2559 เป็นธุรกิจแบบแพลตฟอร์มที่ให้บริการระบบจัดการร้านค้าออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการส่งออกสินค้าสู่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพจากโครงการ Dtac Accelerate Batch 4 เพื่อดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซครบวงจร โดยก่อนที่จะเปิดตัวแพลตฟอร์มอย่างเต็มรูปแบบ ได้ให้บริการแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ในนาม FastShip.co มาก่อนหน้านี้ จึงทำให้การสนับสนุนให้กิจการของบริษัทเป็น SMEs ที่ก้าวสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างดี แพลตฟอร์มของ CloudCommerce ประกอบไปด้วยส่วนงานที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่าง SMEsกับกลุ่ม Marketplace เช่น eBay, Lazada, Alibaba, Amazon และในส่วนของ FastShip ที่ทำหน้าที่เป็นบริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศ (กิจการนี้บริการทั้งผู้ประกอบการออนไลน์และบุคคลทั่วไป) รวมทั้งมีพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ในระดับสากลเช่น DHL, UPS, FedEx
การดำเนินธุรกิจระหว่าง แพลตฟอร์มของ CloudCommerce กับการบริการของ FastShip เป็นส่วน
ประกอบแบบ Ecosystem ของกันและกัน ที่มีส่วนสร้างความสามารถในการให้บริการสนับสนุนกันและกัน และสร้างยอดขายที่เติบโตไปด้วยกัน โดยที่โลจิสติกส์ FastShip มีผู้ใช้บริการกว่า 5,000 ราย ในขณะที่ บริษัท CloudCommerce ก็ช่วยทำให้ธุรกิจในเครือข่ายของสมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง กลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอะไหล่ยนต์ และกลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ สามารถขยายช่องทางติดต่อกับต่างประเทศได้มากขึ้นกว่าเดิม
บริษัทมีรายได้จากการประกอบการ มีรายได้ 2,438,243.00 บาท ในปี พ.ศ. 2560 เพิ่มขึ้นเป็น 72,954,275.92 บาท ในปี พ.ศ. 2564
บริษัท ซีคสเตอร์ จำกัด เป็นจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 โดย คุณชัชนาท จรัญวัฒนากิจ คุณซาฮิบ อนันต์ทรงวิทย์ และคุณแดเนียล ดายย์ โดยร่วมก่อตั้งแอพพลิเคชันในชื่อ Seekster สำหรับการบริการทำความสะอาด (งานแม่บ้าน) และซ่อมแซมที่อยู่อาศัย (งานช่าง) ของคนรุ่นใหม่ที่อาศัยในคอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม รวมถึงสำนักงานของธุรกิจขนาดเล็ก เปิดให้บริการในเดือนมกราคม พ.ศ. 2559 Seekster เป็นแพลตฟอร์มโดยแอปพลิเคชันที่รวบรวมผู้ให้บริการ (Supply Side) โดยรวมข้อมูลและขึ้นทะเบียนแม่บ้านทำความสะอาด และช่างซ่อมแซม แบบที่ไม่ต้องจ้างประจำ โดยมีการจัดระบบ/ระเบียบ มาตรฐาน ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และผ่านการฝึกอบรม เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดีมีคุณภาพและติดตามผลงานได้ ในขณะเดียวกัน ก็สื่อสารและรวบรวมความต้องการ (Demand Side) ของลูกค้าที่ต้องการใช้บริการ เช่น เจ้าของบ้าน คอนโด อาคารสำนักงาน ที่มีมาตรฐาน ผ่านการฝึกอบรม
ข้อมูลการให้บริการแม่บ้านของบริษัท ในปี พ.ศ. 2564 บริษัทมีจำนวนแม่บ้านที่สามารถให้บริการ จำนวน 3,000 คน เป็นผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น (เพื่อควบคุมคุณภาพของแม่บ้าน) โดยแม่บ้านเหล่านี้ ต้องมีการรักษามาตรฐานการให้บริการ ไม่ต่ำกว่าระดับ 4.2 (คะแนนเต็ม 5) หากต่ำกว่านี้จะต้องอบรมเพิ่มเติม และหากต่ำกว่า 3.8 จะถูกพักงานชั่วคราว โดยที่แม่บ้านเหล่านี้จะมีงานทำความสะอาด 3 งาน/วัน งานละ 2 ชั่วโมง จะมีรายได้เฉลี่ย 700-900 บาท/วัน การบริการดังกล่าว ได้ขยายพื้นที่ให้บริการจากไปยังจังหวัดชลบุรี เมืองพัทยา และเชียงใหม่
บริษัทมีรายได้ 29,839,205.67 บาท ในปี พ.ศ. 2561 เพิ่มขึ้นเป็น 62,297,475.72 บาท ในปี พ.ศ. 2563 และได้รับรางวัลต่าง ๆ เช่น ได้รับรางวัล Best Performing Startup จากโครงการ dtac Accelerate batch 5 ในปี พ.ศ. 2560 และได้รับรางวัลลงทุน 150,000 เหรียญจากโครงการ Digital Ventures batch 0 ในฐานะแพลทฟอร์มให้บริการด้านความสะอาดและการซ่อมแซมสำหรับบ้าน คอนโด และสำนักงาน เป็นบริษัทที่สร้างงานเฉลี่ยต่อวัน 150-200 งาน หรือ 5,000-6,000 งานต่อเดือน
Wongnai ก่อตั้งโดยคุณยอด ชินสุภัคกุล เป็นแพลตฟอร์มสัญชาติไทยที่นำเสนอเนื้อหา และข้อมูลรีวิว(สถิติ-ความนิยม) จากผู้ใช้จริงแบบครบวงจร ทั้งร้านอาหาร สูตรอาหาร ความสวยความงาม และท่องเที่ยว ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Wongnai พร้อมทั้งคิดค้นและให้บริการด้าน O2O (Online-to-Offline) เพื่อเชื่อมต่อบริการต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคอย่างไร้รอยต่อ รวมถึงให้บริการระบบการจัดการร้านอาหาร (Wongnai POS) สำหรับเจ้าของธุรกิจ โดยที่บริษัทหัก % จากร้านค้า (ด้าน Supplier) เป็นช่องทางทำรายได้ของบริษัทบริการของ Wongnai ประกอบด้วย 1) Wongnai Food ค้นหาร้านอาหารและรีวิวจากผู้ใช้จริง 2) Wongnai Cooking ค้นหาและแบ่งปันสูตรอาหารและวิธีทำอาหาร Food Delivery สั่งอาหารเดลิเวอรีออนไลน์ผ่าน LINE MAN จากร้านอาหารแนะนำทั่วประเทศ 3) Wongnai POS ระบบจัดการร้านอาหารสำหรับเจ้าของธุรกิจที่มีฟีเจอร์ครบครันในการดูแลร้าน 4) Wongnai Beauty ค้นหาร้านเสริมสวยและสปาและรีวิวจากผู้ใช้จริง และ (5) Wongnai Travel ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว จองที่พัก และรีวิวทริปการเดินทาง
ในปี พ.ศ. 2560 บริษัทมีอัตราการเติบโตทางธุรกิจประมาณร้อยละ 70.0 มีผู้เข้าใช้งานมากกว่า 8 ล้านคน/เดือน โดยผู้บริโภคเข้ามาใช้งานเพื่อดูข้อมูลรีวิวร้านอาหารมากที่สุด ร้อยละ 60.0 รองลงมาเป็นวงในบิวตี้ ร้อยละ 15.0 และที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องคือวงในคุกกิ้ง ผู้บริโภคเข้ามาค้นหาสูตรอาหาร วัตถุดิบ วิธีการทำ ซึ่งขณะนี้มีทราฟฟิกการเข้าใช้งานจำนวนใกล้เคียงกับวงในบิวตี้ ในปี พ.ศ. 2563 มียอดออร์เดอร์จากผู้ใช้ LINE MAN และ Wongnai มากกว่า 21 ล้านคน มีฐานข้อมูลร้านอาหารกว่า 790,000 ร้านใน 77 จังหวัดทั่วไทย ตั้งแต่ร้านอาหารริมทาง ร้านอาหาร Fine Dining รวมไปถึงร้านอาหารเดลิเวอรี โดยต่อมาได้ควบรวมกิจการกับ LINE MAN ในชื่อ “LINE MAN Wongnai” เพื่อมุ่งสู่การเป็น E-commerce Platform for Services
บริษัทมีรายได้จากการประกอบการ 152,130,184.72 บาท ในปี พ.ศ. 2560 และเพิ่มขึ้นเป็น 5,291,959,596.00 บาท ในปี พ.ศ. 2564
บริษัท อี๊ตแล็บ จำกัด จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2561 ด้วยทุนจดทะเบียน 18,731,500 บาท โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชนิกานต์ ว่องวิริยะวงศ์ เป็นผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดร.ชนิกานต์ จบระดับปริญญาเอกด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) จาก Massachusetts Institute of Technology ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยด้านเทคโนโลยีอันดับหนึ่งของโลก และมีประสบการณ์การทำงานกับ Millennium Partners ในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นเฮดจ์ฟันอันดับต้น ๆ ของโลก ที่ใช้ AI วางแผนการลงทุน ดร.ชนิกานต์ เห็นว่า AI ลดความไม่เท่าเทียมกันของโอกาสในสังคมได้และ เทคโนโลยี มีพลังที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจให้สามารถสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้นได้ EATLAB จึงได้พัฒนาโซลูชั่นมาให้คำแนะนำในการเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารจัดการธุรกิจร้านอาหาร
EATLAB ถือเป็น Virtual Data Scientist ที่ดึงความสามารถของ AI มาวิเคราะห์ข้อมูล และคาดการณ์แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของธุรกิจอาหาร เพื่อต่อยอดเป็นบริการฐานข้อมูลสำหรับผู้ประกอบธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ทำให้ผู้ประกอบการสามารถกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งออกเมนูช่วงไหน ควรจัดโปรโมชันแบบใด ที่ทำให้วอลุ่มเพิ่มขึ้นโดยที่ไม่ต้องกังวลกับข้อมูลพร้อมกับดูแลร้านให้ตลอด 24 ชั่วโมงEATLAB ให้บริการต่าง ๆ ดังนี้ 1) ให้คำปรึกษาด้านข้อมูลการตลาดอาหาร โดยใช้ AI และ Big DATA 2) วิเคราะห์ข้อมูลด้านการตลาดของสินค้าอาหาร 3) ใช้ High Technology ในการตรวจสอบคนรับประทานอาหารเพื่อสะท้อนความชอบอาหารของผู้ทาน 4) ระบบ AI ที่ EATLAB พัฒนาขึ้นมาการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปสู่การพัฒนาธุรกิจผ่านการให้บริการ 3 โซลูชั่น ได้แก่ 1) ระบบสังเกตการณ์อัจฉริยะ ผู้ช่วยเฝ้าร้านตลอด 24 ชั่วโมง ประมวลผลให้เจ้าของร้านรู้ว่าลูกค้าที่เข้าร้านเป็นชายหรือหญิง อายุเท่าไหร่ รวมทั้งการตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานในร้าน 2) โซลูชั่นคู่คิดร้านอาหาร ตัวช่วยร้านอาหารคิดโปรโมชั่น กระตุ้นยอดขาย เพิ่มความถี่การเข้ามาใช้บริการและผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้น และ 3) คาดการณ์ยอดขาย โดย AI จะวางแผนการซื้อวัตถุดิบใหม่เข้าร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการเกิดต้นทุนที่เป็นสต็อกและทำให้วัตถุดิบสดใหม่ รวมทั้งประหยัดพื้นที่จัดเก็บ และไม่สูญเสียโอกาสทางการขาย
จากการศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์อย่างละเอียด ปรากฏว่า การคาดการณ์มีความแม่นยำมากกว่าร้อยละ 90.0 และสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ถึง 1 ปี จึงนำเอาความสามารถตรงนี้ มาพัฒนาและปรับเป็นโมเดลธุรกิจ ช่วยผู้ประกอบการวิเคราะห์และคาดการณ์ทิศทางที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมช่วยวางแผนการวางจำหน่ายสินค้า หรือการจัดโปรโมชันต่าง ๆ แม้กระทั่งช่วยให้ฝ่ายการตลาดของบริษัทลูกค้าสร้างสรรค์กลยุทธ์ เพื่อแข่งขันในตลาดอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลกับข้อมูล นอกจากนั้นยังช่วยลดต้นทุน และค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย ในปี พ.ศ. 2564 EATLAB ได้รับการตอบรับในระดับที่น่าพอใจทั้งที่ได้เปิดตัวบริการ โดยในช่วงโควิด-19 พบว่า สามารถช่วยให้ร้านค้าเพิ่มยอดขายเฉลี่ยได้ ร้อยละ 45.0 และร้านอาหาร ที่ใช้บริการแพลตฟอร์มมีอัตราการอยู่รอดเกือบ 100% เนื่องจากสามารถปรับตัวได้ทันความเปลี่ยนแปลงและวางแผนจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายได้ในช่วงที่ธุรกิจมีความท้าทาย ปัจจุบัน กลุ่มลูกค้าหลักเป็นธุรกิจร้านอาหาร 85 ราย
บริษัทมีรายได้จากการประกอบการ 675,379.92 บาท ในปี พ.ศ. 2561 และเพิ่มขึ้นเป็น 5,519,532.92 บาท ในปี พ.ศ. 2564
ตัวอย่างการส่งเสริมของภาครัฐ
กรณีเกาหลีใต้
มีกรณีศึกษาบทบาทของภาครัฐในการส่งเสริมและขับเคลื่อนนโยบายว่าด้วยนวัตกรรม ที่เกาหลีใต้ในสมัยของประธานาธิบดี ปาร์ค กึน เฮ (Park Geun-hye) ที่ดำรงตำแหน่งในระหว่างปี ค.ศ. 2013-2017 เธอได้มีนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์สำหรับการพัฒนาท้องถิ่น โดยให้จังหวัดจัดทำแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ-สร้างสรรค์-นวัตกรรม-เพื่อแก้ปัญหา/และสร้างเศรษฐกิจขึ้นใหม่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ให้เป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องจากการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากวิกฤติทางการเงิน 1997 โดยให้จังหวัดจัดทำแผนเพื่อยื่นของบประมาณจากรัฐบาลไปดำเนินงานดังกล่าว แผนนั้น ต้องมีการสร้างความร่วมมือกับเอกชนขนาดใหญ่ (ที่ได้รับนโยบายไปจากรัฐบาลกลางเช่นกันว่า จะต้องสร้างความร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อตอบแทนต่อสังคม และร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ – ที่ผ่านมาบริษัทเหล่านี้ได้รับเครดิตจากประเทศไปพัฒนาธุรกิจและใช้ประโยบชน์ทางชื่อเสียงไปทั่วโลก) มหาวิทยาลัยในท้องถิ่นหรือจังหวัดใกล้เคียง
โครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่างภาคส่วน 4 ภาคส่วนข้างต้น ได้ทำให้ทุกจังหวัดของเกาหลีใต้จัดตั้งศูนย์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม โดยมีเป้าหมายอย่างน้อย 3 ประการ คือ (1) สร้างงานในท้องถิ่น (2) พัฒนาศักยภาพของ SMEs และ (3) สร้างโอกาสในการแสดงออกของเยาวชน/นักศึกษา
กรณีของไทย
ตัวอย่างการขับเคลื่อนงานนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนธุรกิจของไทย ในปัจจุบันนี้ จะเห็นได้จากการประสานความร่วมมือของหน่วยงานต่าง ๆ ของกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เช่น บพค. วช. บพท. สวก. บพข. NIA ฯลฯ เพื่อเชื่อมโยงการสนับสนุนงานที่ดำเนินงานเกี่ยวกับนวัตกรรมใน 3 ระยะเข้าด้วยกัน ระยะแรก – เริ่มต้นงานวิจัยและ Proop of Concept ระยะที่สอง Promotion Development ระยะที่สาม Corporate Iquity Investment
โดยที่ทุนสนับสนุนการขับเคลื่อนงานด้านวิจัยและนวัตกรรมนี้ เป็นไปตามการขยายกรอบการสนับสนุนจากเดิมที่เป็นงานวิจัยทางวิชาการ และเป็นไปตามความสนใจของนักวิชาการ ไปสู่การวิจัยที่เป็นไปตามนโยบายของสถาบันการศึกษา และการนำไปใช้ประโยชน์ทั้งในด้านธุรกิจและบทบาทของการมีส่วนร่วมแก้ปัญหาของชุมชนและท้องถิ่น
บทสรุป
นวัตกรรมธุรกิจ เป็นเรื่องของการนำเอา Means ที่เป็นเรื่องใหม่ ๆ ไปสร้างความสามารถทางการแข่งขันและร่วมแก้ปัญหาความต้องการของผู้บริโภค และสังคม การสร้างสรรค์นวัตกรรม เริ่มต้นตั้งแต่การสร้างระบบคิด-วิเคราะห์โจทย์ การค้นหาทางออก การสร้างตัวแบบ การทดสอบ และการนำสู่ภาคปฏิบัติจริง เป็นกระบวนการที่มีความต่อเนื่อง มีพลวัต
อ้างอิง
สุนทร คุณชัยมัง.
ตัวแบบนวัตกรรมธุรกิจ = Innovative business model. — ปทุมธานี : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรังสิต, 2567. 165 หน้า.
…………….……
เรียบเรียงโดย
ดร.สุนทร คุณชัยมัง
ผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรมและสร้างสรรค์ความรู้
(Innovation and Creativity in Knowledge Academy : ICIK)
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์